วัคซีนพื้นฐานที่ทารกทุกคนต้องฉีด

วัคซีนพื้นฐานที่ทารกทุกคนต้องฉีด

**เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะโรคร้ายเกิดขึ้นได้ตลอด การฉีดวัคซีนจึงช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคในระยะยาวให้ลูกได้ มาดูกันค่ะว่าวัคซีนพื้นฐานที่ทารกต้องฉีดมีอะไรบ้าง **

เพราะเด็กทารกนั้นยังไม่มีภูมิคุ้มกันร่างกาย จึงเป็นเรื่องง่ายที่เชื้อโรคร้ายต่างๆนั้นจะเข้าสู่ร่างกายของเจ้าตัวเล็กได้โดยง่าย ดังนั้นจึงต้องมีการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโรคต่างๆให้กับลูกรักนั่นเองค่ะ จำเป็นมากๆนะคะ มาดูกันค่ะ ว่าวัคซีนพื้นฐานนั้นมีอะไรบ้างและต้องฉีดตอนไหน

1. บีซีจี (BCG)

วัคซีนนี้ ต้องฉีดวัคซีนชนิดนี้ที่บริเวณไหล่ซ้าย ภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิด เพื่อป้องกัน การอาเจียน มีไข้ ปวดศีรษะรุนแรง และคอแข็ง เพราะวัณโรคสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการหายใจหรือเข้าทางบาดแผลได้ค่ะ

2. ตับอักเสบบี (HBV) 

เด็กต้องฉีดวัคซีนชนิดนี้ตั้งแต่เกิด, 1 และ 6 เดือน หรือฉีดเป็น วัคซีนรวมกับคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน เมื่ออายุ 2, 4 และ 6 เดือน โดยไวรัสนี้ตอนติดเชื้อแล้ว แรก ๆ จะไม่แสดงอาการ แต่เชื้อจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็วเพื่อทำลายเซลล์ตับ จนตับอักเสบ ตับแข็ง และเป็นโรคมะเร็งตับได้ค่ะ

3. คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน

 เด็กต้องฉีดวัคซีนชนิดนี้เป็นวัคซีนรวม 3 โรค จำนวน 3 ครั้ง และฉีดกระตุ้นอีก 2 ครั้ง หลังจากนั้นควรฉีดวัคซีนบาดทะยักและคอตีบ (Td) กระตุ้นซ้ำทุก ๆ 10 ปี 

• โรคคอตีบ เมื่อได้รับเชื้อแบคทีเรียจะมีเยื่อสีขาวปนเทาอุดหลอดลม จนเกิดอาการเจ็บคอ กลืนอาหารลำบาก ไอ มีไข้ต่ำ ๆ และหลอดลมอักเสบ

• โรคบาดทะยัก เชื้อบาดทะยักนั้นจะเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล และปล่อยสารพิษ จับกับเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งตลอดเวลา

• โรคไอกรน ทำให้เด็กไอค๊อกไอแค๊กเป็นชุด ๆ ติดต่อกัน 5-10 ครั้ง หรือมากกว่านั้นจนหายใจไม่ทัน สลับกับการหายใจเข้าลึก ๆ

4. . โปลิโอ

  เด็กต้องกินหรือหยอดวัคซีนโปลิโอชนิดนี้เมื่ออายุ 2, 4 และ 6 เดือน แล้วต้องหยอด เพื่อกระตุ้นอีก 2 ครั้ง คือ 18 เดือน และในช่วง 4-6 ปี เพราะเชื้อไวรัสโปลิโออาจปนในน้ำดื่มหรือสิ่งที่ทาน เมื่อเชื้อเข้าไปในร่างกายแล้วจะไปทำลายเซลล์ประสาทไขกระดูกสันหลังและระบบประสาทต่าง ๆ จนกล้ามเนื้ออ่อนแรงและเป็นอัมพาตได้ค่ะ 

5. หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม

เด็กจะต้องฉีดวัคซีนแบบวัคซีนรวม 3 โรคนี้ เมื่ออายุ 9-12 เดือนขึ้นไป และฉีดเข็มที่สอง เมื่ออายุ 4-6 ปีค่ะ

• โรคหัดและโรคหัดเยอรมันนี้เกิดจากเชื้อไวรัสคนละตัวค่ะ เมื่อติดเชื้อหัดเยอรมันเด็กจะมีไข้สูง 1 -2 วัน และผื่นขึ้น 3-5 วัน แล้วยุบได้เอง ส่วนหัด นั้น เด็กจะมีไข้ 3-4 วัน และจะมีผื่นขึ้นทั้งตัวเมื่อยุบแล้วจะเหลือรอยสีน้ำตาลทิ้งไว้ 

• โรคคางทูม หากเชื้อไวรัสนี้เข้าร่างกายทำให้ต่อมน้ำลายบริเวณแก้มหน้าหู เหนือขากรรไกรบวมอักเสบ จนโย้ลงมากลายเป็นคางทูมได้

6. ไข้สมองอักเสบเจอี (JE)

เด็กจะต้องฉีดวัคซีนชนิดนี้ 2 เข็ม ระหว่างอายุ 9-18 เดือน โดยฉีดเข็มที่ 1 และ 2 ห่างกัน 4 สัปดาห์ และฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 2-2ปีครึ่งค่ะ

โดยไข้สมองอักเสบเจอีนี้ เป็นโรคของสัตว์บางชนิดที่ระบาดมายังคนได้โดยติดต่อผ่านทางยุง ทำให้ได้รับเชื้อไวรัสเข้ามาทางเลือดและแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเรื่อย ๆ ทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน และมีไข้สูงตลอดเวลา หากขึ้นสมอง จะทำให้เด็กเป็นโรคไข้สมองอักเสบจนเด็กเสียชีวิตได้ค่ะ 

**นอกจากนี้ยังมีวัคซีนรวม ซึ่งเป็นวัคซีนที่รวมโรคหลาย ๆ ชนิดไว้ในเข็มเดียวกัน  เพื่อให้เด็กเจ็บตัวน้อยลงแต่ได้รับการคุ้มกันหลายโรคได้รอบด้านมากขึ้นนั่นเองค่ะ ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องพาเจ้าตัวเล็กไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนให้ตรงเวลานะคะ**

“ป้องกันไว้แต่เเรกเริ่ม เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก”