รวมของใช้ขัดขวางพัฒนาการทารก

รวมของใช้ขัดขวางพัฒนาการทารก

                เตือน! หลีกเลี่ยงสิ่งของเหล่านี้ อันตรายมากและทำให้ทารกพัฒนาการช้า จะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

               *** พัฒนาการทารกช่วงวัยแรกเกิดสำคัญมากค่ะ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตและเรียนรู้สิ่งแวดล้อม ซึ่งในวัยนี้ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากอีกทั้งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จะมีสิ่งของอะไรบ้างที่ขวางพัฒนาการทารกมาดูกันเลยค่ะ**

1.ถุงมือสำหรับเด็กอ่อน

                เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่หลายต้องการให้ลูกใส่ถุงมือเพราะกลัวลูกหนาวปรับสภาพร่างกายยังไม่ดี หรืออาจกลัวเล็บมือของทารกข่วนใบหน้าตัวเอง สำหรับถุงมือนั้นควรให้ทารกใส่เพียง 1-2 สัปดาห์หลังแรกเกิดจนกว่าทารกปรับสภาพร่างกายกับแวดล้อมได้ เพราะถุงมือเป็นการปิดกั้นพัฒนาการระบบประสาทต่างๆในมือ ทำให้ทารกไม่สามารถใช้นิ้วได้อย่างเต็มที่ส่งผลให้พัฒนาการด้านการจับหรือหยิบช้า ดังนั้นถุงมือควรใส่เมื่อสภาพแวดล้อมหนาวเท่านั้นหากทารกมีเล็บแหลมให้ใช้ตะไบสำหรับทารกตะไบออกนะคะ

2.เก้าอี้หัดเดิน

                อีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจมองข้าม สำหรับเก้าอี้ช่วยหัดเดินเป็นสิ่งที่ขัดขวางพัฒนาการทางด้านเดินและทรงตัวสำหรับทารกค่ะ เนื่องจากเก้าอี้หัดเดินเป็นการให้ทารกนั่งและใช้เท้าดันพื้นในการเคลื่อนที่ซึ่งทำให้ทารกไม่ได้ใช้กำลังขาอย่างเต็มที่ เมื่อทารกออกมาเดินจริงจึงผลให้สับสนต่อการใช้กล้ามเนื้อและการทรงตัวค่ะ อีกทั้งเก้าอี้หัดเดินทำให้ทารกไม่สามารถมองเห็นขาของตัวเองทำให้เดินไปสะดุดสิ่งต่างๆและเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นการฝึกเดินด้วยการช่วยพยุงทารกให้เดินเองจะส่งผลต่อพัฒนาการได้ดีที่สุดนะคะ

3.มือถือและอุปกรณ์ไอที

                แม้อุปกรณ์เหล่านี้จะสามารถใช้เปิดสื่อการเรียนรู้ต่างๆให้แก่ทารกได้ แต่สำหรับทารกแรกเกิดนั้นการเรียนด้วยสื่อผ่านหน้าจอไอทีนั้นส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทารกมากค่ะ จากสหภาพยุโรปชี้แจงว่า มือถือมีการปล่อยรังสีออกมากที่ส่งผลต่อเซลล์ในสมองทารกทำให้มีโอกาสเป็นโรคความจำเสื่อมและสมาธิสั้น อีกทั้งหน้าจอมือที่มีแสงสีฟ้าที่เมื่อทารกเพ่งเป็นเวลานานอาจส่งผลต่ออาการสายตาสั้นในอนาคตได้ ดังนั้นสำหรับทารกแรกเกิดอย่าเพิ่งให้ลูกเล่นมือถือนะคะ

4.ห่วงยางสำหรับว่ายน้ำ

                ห่วงยางสำหรับว่ายน้ำมีหลากหลายรูปแบบสำหรับทารกแรกเกิดค่ะ ซึ่งแต่ละแบบต่างมีอันตรายที่แฝงอยู่แตกต่างกันออกไป เช่น ห่วงยางแบบโดนัททำให้ทารกหลุดออกจากห่วงตรงกลางและจมน้ำได้ ห่วงยางแบบสอดขาหากทารกหัวพลิกลงน้ำไม่สามารถกลับหัวขึ้นมาได้ รวมถึงห่วงยางเหล่านี้แม้ช่วยให้ทารกลอยตัวในน้ำได้แต่ส่งผลให้ทารกฝึกการว่ายน้ำในรูปแบบท่าที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นห่วงยางที่ปลอดภัยที่สุดควรเป็นห่วงแบบเสื้อชูชีพสวมตัวคล้ายเสื้อจะทำให้ทารกลอยตัวอย่างปลอดและฝึกท่าว่ายน้ำที่ถูกต้องได้ค่ะ

5.น้ำหอมและน้ำมันหอมระเหย

                แม้น้ำหอมที่เราฉีดใส่ตัวจะทำให้เรามีกลิ่นหอมที่สดชื่นหรือน้ำมันหอมระเหยที่ทำให้ห้องมีกลิ่นผ่อนคลาย แต่นั่นเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อทารกมากค่ะ เพราะน้ำหอมมีกลิ่นที่แรงหากทารกสูดดมเป็นปริมาณและบ่อยครั้งจะส่งผลต่อระบบหายใจที่ยังไม่แข็งทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ อีกทั้งกระทบต่อประสาทสัมผัสด้านดมกลิ่นของทารกลดน้อยลงด้วยค่ะ ดังนั้นอย่าใช้ในปริมาณสูงหากมีทารกอยู่ในบ้านนะคะ

6.การเปิดลำโพงเสียงดัง

                การเปิดดนตรีให้ทารกฟังเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านสมองเป็นสิ่งที่ดีมากๆค่ะ แต่ถ้าเปิดให้ทารกฟังในความดังที่สูงจนเกินไปส่งผลต่อพัฒนาการการได้ยินของทารกค่ะ ซึ่งการฟังที่ปลอดภัยไม่ควรเกิน 90 เดซิเบล หากทารกฟังเสียงดังเป็นเวลานานนอกจากทำให้ทารกรู้สึกหนวกหูแล้วยังอาจทำให้ทารกมีโอกาสเสี่ยงหูดับอีกด้วยค่ะ ดังนั้นควรเปิดเพลงให้ลูกฟังเบาๆ ไม่ดังจนเกินไปเพื่อความปลอดภัยของหูทารกนะคะ

               *** และสิ่งของทั้งหมดนี้เป็นสิ่งทำให้ทารกพัฒนาการช้าและเป็นอันตรายต่อทารกอีกด้วยค่ะ ทารกช่วงวัยแรกเกิดการใส่ใจดูแลทารกอย่างใกล้ชิดสำคัญมาก ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงสิ่งของที่ขวางพัฒนาการทารกเพื่อความปลอดภัยและพัฒนาการที่ดีของทารกในอนาคตนะคะ***

“ทุกๆการเติบโตของลูก พ่อแม่มีบทบาทสำคัญที่สุด”