5 วิธีรักษากลากน้ำนม

5 วิธีรักษากลากน้ำนม

         เคล็ดลับรักษากลากน้ำนมจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้ทารกหายไวขึ้น มาดูกันค่ะ

***โรคกลากน้ำนมเกิดจากความผิดปกติที่ลดเม็ดเลือดแดงในผิวหนังน้อยลง จึงทำให้ผิวหนังมีรอยจางเป็นวงด่าง เริ่มจากการที่ผิวหนังเป็นผื่นสีแดงเป็นวงดวงสีแดง จากสีแดงจะเริ่มจางตัวเป็นชมพูขนาด 0.5-4 เซนติเมตร มีขุยและกลายเป็นสีขาวที่เป็นกลากน้ำนมนั่นเองค่ะ มาดูวิธีรักษากันค่ะ***

1.อาบน้ำด้วยสบู่สำหรับเด็ก อ่อนโยนต่อผิว

         สำหรับข้อนี้สำคัญมากค่ะ ในการอาบน้ำทุกครั้งต้องใช้สบู่ที่มีสูตรอ่อนโยนสำหรับเด็กทารกเท่านั้นในการอาบน้ำ เพราะกลากน้ำนมเกิดจากการที่ผิวของทารกแตกแห้งเป็นขุยจากผื่น หากใช้สบู่ของผู้ใหญ่จะยิ่งทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมและวงสีขาวเป็นชัดมากขึ้น ดังนั้นใช้ครีมอาบน้ำสำหรับทารกเท่านั้นนะคะ

2.ลดการพาทารกออกไปเจอแสงแดด

         เนื่องจากวงขาวบนผิวหนังของกลากน้ำนมเกิดจากการที่ผิวหนังถูกลดเม็ดเลือดแดงจึงทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นสีจางกว่าจุดอื่น การพาทารกออกไปเจอแดดสัมผัสกับผิวหนังจะทำให้วงสีขาวหายช้าลง ดังนั้นในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการพาทารกไปยังที่มีแสงแดดจัดก่อนนะคะ

3.ใช้ครีมทาผิวสูตรอ่อนโยน

         กลากน้ำนมส่งผลให้ผิวของทารกแห้งและไวต่อแสงแดดมาก จึงต้องเสริมความชุ่มชื่นของผิวเพื่อให้กลากสีขาวหายได้ไวมากขึ้น โดยการใช้ครีมทาผิวสูตรธรรมชาติมอยเจอไรเซอร์ไม่มีน้ำหอมทาบริเวณผิวที่มีอาการกลากน้ำนมจะช่วยบรรเทาให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น และบำรุงส่วนผิวที่สีขาวให้ค่อยๆจางหายไปค่ะ หมั่นทาบริเวณผิวที่มีกลากทุกวันหลังอาบน้ำจะช่วยให้กลากหายไวมากขึ้นค่ะ

4.อาบน้ำอุณหภูมิปกติ

         อุณหภูมิในการอาบน้ำทารกที่ดีควรอยู่ในช่วง 36-37 องศาเซลเซียส และไม่ควรให้สูงมากไปกว่านี้ เพราะน้ำที่ใช้อาบทารกหากอุ่นหรือร้อนจนเกินไปจะทำให้ผิวของทารกแห้งมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อกลากน้ำนมทารกที่จะขยายวงชั้นขึ้นและผิวแห้งแตกมากขึ้น ดังนั้นจึงควรอาบน้ำอุณหภูมิปกติและไม่ควรอาบน้ำทารกเกิน 5 นาที เพราะทารกจะผิวแห้งได้นะคะ

5.งดการทาแป้งบริเวณกลาก

         ผิวกลากน้ำนมเป็นผิวที่มีความแห้งในตัวอยู่แล้วดังนั้นไม่ควรทาแป้งบริเวณดังกล่าวอย่างยิ่งเพราะจะยิ่งทำให้ผิวของทารกแตกและแห้ง เป็นขุยมากขึ้นค่ะ ซึ่งหากจำเป็นต้องทาแป้งต้องใช้แป้งสำหรับเด็กที่มีสูตรอ่อนโยนเท่านั้นจึงจะปลอดภัยต่อผิวบริเวณกลากมากขึ้นค่ะ

         ***สำหรับกลากน้ำนมจริงๆแล้วไม่ได้โรคที่ร้ายแรงอะไรค่ะและเป็นโรคที่ทารกสามารถหายไปเอง ขึ้นอยู่กับว่าทารกคนใหนใช้เวลาการรักษาเท่าไหร่ ซึ่งปกติแล้วจะหายไปภายใน 1-2 ปีค่ะ ในช่วงนี้ให้ดูแลรักษาผิวพรรณลูกให้ชุ่มชื่นอยู่ตลอดและอาบน้ำสม่ำเสมอเพื่อความสะอาดและผิวที่ชุ่มชื้นนะคะ***

“ใส่ใจทุกรายละเอียดของลูก เพื่อสุขภาพและพัฒนาการที่ดี”