9 สิ่งต้องรู้ก่อนให้ทารกกินนมขวด

9 สิ่งต้องรู้ก่อนให้ทารกกินนมขวด!

    **แม่ห้ามพลาด! ก่อนให้ลูกเริ่มกินนมขวดต้องรู้  9 ข้อนี้ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย**

    หากคุณแม่สามารถให้นมลูกได้ตามปกติ 3 เดือนแรก แนะนำให้เข้าเต้าล้วนจะดีที่สุด เพราะลูกจะได้รับสายใยความอบอุ่น ความผูกพันธ์และความปลอดภัยจากแม่ แต่หากไม่สามารถให้นมจากเต้าได้ หรือถึงเวลาที่ลูกต้องเปลี่ยนไปกินนมขวดแล้ว มาดู 9 สิ่งต้องรู้ก่อนให้ทารกกินนมขวดกันค่ะ

1.เลือกวัสดุขวดให้เหมาะสม

สิ่งสำคัญคือต้องเลือกวัสดุที่ได้มาตรฐาน มีสัยลักษณ์BPA Free เพราะเจ้าขวดนี้ จะต้องสัมผัสกับนมที่ลูกกินอยู่ตลอด และที่สำคัญ ควรเปลี่ยนขวดเมื่อถึงระยะเวลาตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 5-6 เดือน หรือเปลี่ยนเมื่อขวดเริ่มเหลืองมาก ขุ่น ไม่ใส หรือมีรอยขูดขีด หรือเลือกเป็นขวดแก้วที่ทำความสะอาดง่ายแต่จะมีน้ำหนักมาก และเสี่ยงต่อการตกแตก

2.เลือกจุกนมที่พอดีกับปากของลูก 

การเลือกขนาดจุกนมสำคัญมากนะคะ เพราะหากจุกนมไม่พอดี อาจทำให้ลูกมีลมในกระเพาะมาก เกิดอาการอึดอัดแน่นไม่สบายตัว หากใหญ่เกินไป อาจเกิดการสำลัก เปลี่ยนให้พอดีกับช่วงวัยของลูก และทดสอบสภาพการใช้งานอยู่เสมอ หากดึงจุกนมแล้วไม่หดกลับไปที่เดิม มีลักษณะบวมนิ่ม สีซีด มีรอยแตกหรือฉีก ต้องเปลี่ยนนะคะ

3.อุ้มลูกเรอหลังทานนม

บางคนเข้าใจว่า หากดื่มนมขวดก็ไม่ต้องอุ้มเรอแล้ว ไม่ใช่นะคะ ยังต้องอุ้มเรอเหมือเดิมค่ะ เพราะการดูดนมจากขวดจะทำให้ลมเข้าท้อง ทำให้ทารกท้องอืด หรือปวดท้องได้

4.ปั๊มนมเก็บเอาไว้ได้

ในช่วงที่คุณแม่ไม่สามารถให้ลูกดูดจากเต้าได้ สามารถให้นมแม่ผ่านขวดได้จากการปั้มนมใส่ขวดไว้ให้ลูกกิน มีคุณแม่หลายคนที่ปั๊มนมเป็นสต็อกนมแม่เก็บไว้เรื่อยๆ ทานได้จนลูกโตเลยล่ะค่ะ แต่ต้องเก็บในถุงสำหรับเก็บน้ำนมแม่ที่สะอาด และแช่เย็นหรือแช่แข็งตลอดเวลานะคะ

5.เตรียมนมให้พอดีอิ่ม

ต้องคอยสังเกตนะคะว่าลูกของเรากินครั้งละปริมาณเท่าใด เพื่อที่จะชงนมให้พอดี แนะนำให้ช่วงแรกๆ ชงเผื่อสักเล็กน้อยนะคะ เพราะหากถ้ายังไม่อิ่มแล้วนมหมดก่อน แล้วต้องรอแม่ชงใหม่ อาจทำให้ร้องไห้อาละวาดได้

6.ตวงให้ถูกต้อง

    สำหรับนมชง  คุณแม่ต้องตวงให้ได้ส่วนผสมที่เหมาะสมตามข้างกล่อง ไม่มากหรือน้อยไป และกรณีที่เป็นนมผสม ก็ต้องตวง

ให้น้ำและนมต้องมีสัดส่วนที่เท่ากัน ถ้านมมากหรือน้อยไปอาจทำให้มีอาการท้องผูกได้

7.เช็คอุณหภูมิก่อนให้ลูกทาน

คุณแม่บางคน พอเห็นลูกร้องไห้หิวนม ก็รีบชงนมให้ลูกทานในทันที แต่คุณแม่ต้องเช็คอุณหภูมิของนมทุกครั้ง ว่าอยู่ในอุณหภูมิที่ลูกกินได้พอดีหรือไม่ อย่าให้ร้อนเกินไปเด็ดขาด เพราะลิ้นเด็กอาจบวมหรือพองได้

8.ทำความสะอาดขวดนมด้วยความร้อน

บางครั้งแค่น้ำยาทำความสะอาดอาจไม่สามารถทำความสะอาดคราบนมต่างๆได้ ทำให้มีเชื้อโรคสะสมหรือมีกลิ่นเหม็นบูดอับในขวด ให้คุณแม่ใช้วิธีผสมน้ำร้อนกับน้ำยาล้างขวดนมเพื่อล้างขวด และสามารถต้มนึ่งขวดนมเพื่อฆ่าเชื้อโรคนานๆครั้ง แต่ห้ามใช้กับไมโครเวฟเด็ดขาด

9.เลิกขวดนมเมื่อลูกใช้แก้วได้แล้ว

เมื่อลูกวัย 6-9 เดือน สามารถดื่มน้ำหรือนมจากแก้วได้แล้ว ควรให้ลูกเลิกขวดนมนะคะ เพราการกินนมจากขวดอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันได้

**สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ หากลูกทานไม่หมดภายใน1-2ชั่วโมง หรือหากแช่ตู้เย็น ไม่เกิน 4 ชั่วโมง ให้ทิ้งนมเลยนะคะ ห้ามเก็บไว้ทานวันต่อไป ไม่ต้องเสียดายค่ะ เพราะหากให้ลูกทาน อาจท้องเสียได้นะคะ**

“สองมือแม่ช่วยประคอง เฝ้ามองทุกการเติบโต”