คุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ คงต้องมีความกังวลต่อการเลี้ยงลูกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลูกแรกเกิดที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการเลี้ยงดูสูง พัฒนาการทุกระบบของเด็กยังไม่พร้อมสมบูรณ์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันถึงอาการผิดปกติที่จะเกิดขึ้ถ้าหากละเลย หรือไม่เข้าใจลักษณะอาการดังกล่าว อาจเกิดผลในทางลบต่อลูกได้
การเลี้ยงดูลูกจึงต้องรู้หลัก และมีความละเอียดอ่อนมากพอสมควร ซึ่งบางครั้งอาจจะมีอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในตัวเด็กก็เป็นได้ เนื่องจากการปรับตัวของเด็กแรกเกิดยังไม่คงที่ โดยอาการที่เป็นสัญญาณเตือนว่าลูกน้อยของคุณ เริ่มมีความผิดปกตินั้น คุณหมอได้แยกอาการหลักๆ ที่ผิดสังเกตออกมาดังนี้
1 .อุณหภูมิร่างกายลูกสูง-ต่ำผิดปกติ
ปกติอุณหภูมิเด็กแรกเกิดจะประมาณ 37 องศาเซลเซียส ไม่ควรมากกว่า หรือต่ำกว่า 0.5 องศา เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส คือตัวลูกจะร้อน ควรใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิทางรักแร้นาน 3-5 นาที แล้วอ่านค่า ไม่แนะนำปรอทวัดค่าที่ปากเนื่องจากเด็กจะกัด ทำให้ปรอทแตกได้ ส่วนปรอทวัดค่าทางหน้าผาก ผลอาจผิดพลาดได้ ถ้ามีไข้ควรพบแพทย์ทันที
กรณีที่ลูกตัวเย็น ให้สังเกตว่าปลายมือปลายเท้าเขียวคล้ำหรือไม่ หากลูกมีอาการเขียวคล้ำและดูซึมๆ รีบไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจมีภาวะติดเชื้อได้ ถ้าเด็กอายุน้อยกว่า 1 เดือนมีไข้ ไม่ควร ให้ทานยาลดไข้เองเด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นการปิดบังอาการ และเกิดอันตรายต่อเด็กได้
2. ลูกผิวเหลืองจนผิดสังเกต
เด็กปกติผิวควรเป็นสีชมพูแดง ถ้าเมื่อไหร่กดดูสีผิวลูกแล้ว ลูกมีอาการสีผิวออกเหลืองส้มเหมือนทาขมิ้น ควรรีบพามาพบแพทย์ ซึ่งในเด็กปกติอาจมีอาการตัวเหลืองได้ในวันที่ 3-5 หลังกลับจากโรงพยาบาล จากนั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในอายุ 7 วัน โดยอาการตัวเหลือง จะเริ่มเหลืองจากหน้า ลงไปเรื่อยๆ จนถึงขา แต่เวลาหายเหลืองจะหายจากขาขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงหน้า
ถึงกระนั้น ถ้าหากกลับบ้านแล้วลูกมีอาการตัวเหลืองถึงขา ซึม ไม่กินนม เมื่อดูอาการแล้วไม่หายภายใน 7 วัน ควรรีบพามาพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากภาวะตัวเหลือง ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน อาจทำให้เด็กมีอาการผิดปกติ ชักเกร็ง และพัฒนาการช้ากว่าเด็กปกติได้
3. ดูดนมจากเต้านานจนเหนื่อยหอบ
ปกติเด็กแรกเกิดจะดูดนม ประมาณ 1-2 ออนซ์ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดน้ำหนักตัวของเด็ก โดยปกติใช้เวลาในการกินนม ไม่เกินครึ่งชั่วโมง จากนั้นเด็กจะหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อกินนมอีก อย่างไรก็ดี ในกรณีกินนมแม่ เด็กอาจจะดูดบ่อยทุกๆ 1-2 ชั่วโมง และใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที หากเกิดความผิดปกติ ลูกจะดูดนมได้น้อยลง ซึม หรือ ร้องกวน และจะใช้เวลาในการดูดนมนานกว่าปกติ หรือ ดูดนมแล้วมีอาการหอบเหนื่อย หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบพามาพบแพทย์ทันที
4. ไม่ถ่ายท้อง ร่วมกับท้องอืดบวม-อาเจียน
ช่วง 2-3 วันแรกเด็กจะถ่าย เป็นสีเทา หรือเขียวปนเหลือง จากนั้นจะกลายเป็นสีเหลืองทอง ถ้ากินนมแม่จะถ่าย เป็นฟอง หรือเป็นเม็ดมะเขือ ปนน้ำเนื้อเละๆ โดยถ่ายวันละ 6-10 ครั้ง ซึ่งอาการดังกล่าวไม่ใช่ภาวะท้องเสียแต่อย่างไร แต่เพราะนมแม่จะช่วยให้ย่อยได้ง่าย แต่ถ้ากินนมผสมจะถ่ายวันละ 2-3 ครั้ง ขึ้นกับชนิดของนมผสมที่รับประทาน
ถ้า 2-3 วันไม่ถ่ายเลย พร้อมกับมีอาการท้องอืดบวม ดูไม่สบายตัว ประกอบกับมีอาการอาเจียนร่วมด้วย ต้องระวังภาวะลำไส้อุดตันแต่กำเนิด หรือถ้าอุจจาระมีมูกเลือดปน ควรพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีภาวะติดเชื้อในลำไส้ หรือเกิดภาวะแพ้นมวัวได้ ทางที่ดีควรกินนมแม่จะดีกว่า
5. อาการชัก
ปกติเด็กวัยนี้จะมีการสะดุ้ง ผวา สะอึก หรือมีภาวะแขนขาสั่น แต่จับแล้วจะหยุด พอปล่อยอาจจะ มีอาการสั่นๆ อีกเล็กน้อย อาการที่ ผิดปกติในทารกแรกเกิดนี้ การชักจะไม่เกร็งกระตุกเหมือนในเด็กโต แต่อาจมีอาการแค่เกร็ง ตาลอย และกระพริบตาถี่ๆ กำมือ เหมือนว่ายน้ำ ขาถีบสูงเหมือนปั่นจักรยาน ปากจะขมุบขมิบคล้ายดูดนมตลอดเวลา โดยมีอาการตาลอยค้างร่วมด้วย ซึ่งอาการแบบนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีความผิดปกติทางสมอง เป็นโรคทางเมตาบอลิก หรือมีการติดเชื้อได้
จากอาการทั้งหมด เป็นสัญญาณที่พ่อแม่จะต้องพึงระวัง อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาหลังคลอด 1 เดือน ก่อนที่คุณหมอจะนัดลูกน้อยกลอยใจมาตรวจอีกครั้ง คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการของลูกให้ดีด้วยว่า มีความผิดปกติตามอาการที่ได้กล่าวไปข้างต้นหรือไม่ ถ้าพบอาการตามที่คุณหมอบอก ให้รีบพามาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ตรวจดูอาการ ความผิดปกติ พร้อมกับช่วยรักษาได้ทันท่วงที
คำแนะนำเพิ่มเติมในช่วง 0-28 วัน หรือหลังคลอด 1 เดือน ไม่ควรพาลูกออกไปเที่ยวนอกบ้าน เพราะลูกยังมีการปรับตัวในเรื่องอุณหภูมิของร่างกายยังไม่ดี อาจเจ็บป่วย และติดเชื้อได้ง่ายค่ะ
บทความจาก : http://www.islammore.com/view/1598
หน้าที่เข้าชม | 2,838,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,497,358 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |