อาการไอของทารกที่ต้องรู้!
**ไอค่อกแค่ก? ไอแห้งๆ? ไอตลอดทั้งคืน? ทารกไอแบบไหนที่คนเป็นพ่อแม่ต้องระวัง?! มาดูกันค่ะ**
อาการไอนั้น เป็นสัญญาณที่ร่างกายต้องการกำจัดสิ่งแปลกปลอม ที่เข้ามากีดขวางระบบทางเดินหายใจหรือการติดเชื้อ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งที่เป็นสัญญาณอันตราย และเป็นอาการปกติที่แก้ไขได้ไม่ยาก มาดูเลย
ไอแบบมีเสียงก้อง
หากลูกมีอาการไอเสียงแปลกๆ คล้ายกับเสียงหมาเห่า หายใจลำบาก และเสียงดังเวลาหายใจเข้า อาจเกิดจากการบวมของทางเดินหายใจ ซึ่งอาจเกิดจากโรคครูป หรือเกิดจากกล่องเสียงอักเสบ โรคนี้เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการติดเชื้อของทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบและบวมของกล่องเสียงและหลอดลม มักพบได้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี และพบในเด็กอายุประมาณ 2 ปีบ่อยที่สุดค่ะ หากลูกไอจนอกบุ๋มไอไม่หยุด ให้ไปพบแพทย์ทันทีนะคะ
ไอมีเสียงวี้ด
หากอาการไอเหมือนมีเสียงวี้ดเหมือนนกหวีด อาจเกิดจากการอักเสบของปอด หรือทางเดินหายใจตีบค่ะ พบได้บ่อยในทารกที่เป็นโรคหอบหืด และโรคหลอดลมอักเสบ หรืออาจเกิดจากการที่มีสิ่งแปลกปลอม เข้าไปอุดตันบริเวณทางเดินหายใจ ดังนั้นควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์ทันที
ไอตอนกลางคืน
อาการไอตอนกลางคืนนี้ อันตรายตรงที่หากลูกนอนราบ และเป็นไข้หวัด ไอ อาจมีโอกาสที่น้ำมุก เสมหะต่างๆจะไหลลงช่องคอ ทำให้เกิดอาการไอ และนอกจากนี้ สิ่งกระตุ้นต่างๆที่อาจทำให้เกิดอาการไอมากขึ้นคือ อากาศเย็น ที่ทำให้หลอดลมตีบตัว ส่งผลให้มีอาการไอได้ อากาศแห้งที่มีความชื้นน้อย ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุจมูกได้ และฝุ่นต่างๆ โดยเฉพาะหมอน ผ้าห่ม กระตุ้นให้เกิดอาการไอมากขึ้นค่ะ
ไอกรน
หากลูกมีอาการไอติดต่อกัน โดยที่ไม่ได้หายใจเป็นพัก ๆ และเมื่อหายใจเข้าอาจทำให้มีเสียงวู้ปได้ และอาจมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น น้ำมูกไหล มีไข้ หรือจาม ร่วมด้วย อาจเกิดจากอาการไอกรน จากการติดเชื้อเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจค่ะ ทารกที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีน อาจทำให้เกิดอาการที่รุนแรงได้และติดต่ได้ง่ายด้วยนะคะ
ไอเรื้อรัง
ไอเรื้อรัง อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะหากลูกน้อยนั้นทเป็นไข้หวัดบ่อย โรคที่อาจทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง ได้แก่ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ และโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโพรงจมูกและทางเดินหายใจ หากไอเรื้อรัง ติดต่อกันนานกว่า 3 สัปดาห์ อย่านิ่งนอนใจ ให้พาไปพบแพทย์นะคะ
**อาการไอของลูก สามารถบอกได้ถึงอาการเจ็บป่วยต่างๆเช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้และไซนัสอักเสบ ดังนั้นหากได้ยินเสียงไอของลูก ควรดูแล สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และปรึกษาแพทย์ว่าเกิดจากอะไรค่ะ**
“ไม่ปล่อยให้ลูกคลาดสายตา เพราะลูกมีค่ามากกว่าทุกสิ่ง”
หน้าที่เข้าชม | 2,838,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,497,358 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |