10 ลักษณะและสีของ อึลูก บอกอะไรคุณแม่บ้าง?

การดูลักษณะและสีของ อึลูก เพื่อบอกสุขภาพของหนูน้อย

             เมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลกขึ้นมา นอกจากรูปลักษณ์ภายนอก การแสดงถึงอาการต่างๆ ที่ทำให้เรารู้ถึงความรู้สึกของลูกแล้ว ก็ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือ อึ (อุจจาระ) ของลูกน้อย นั้นเอง

              ทารกตั้งแต่แรกคลอดนั้นลักษณะและสีของอุจจาระจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คุณแม่ทั้งหลายควรหมั่นสังเกต ยิ่งเป็นเด็กเล็กๆควรสังเกตมากกว่าเด็กโตเพราะลูกเล็กๆยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอะไร เจ็บป่วยตรงไหน การที่คุณแม่สังเกตลักษณะและสีอุจจาระของลูกเป็นการตรวจสอบสุขภาพอย่างหนึ่งของลูก เรามาดูกันค่ะ ว่า อึลูกน้อย จะเป็นตัวช่วยให้คุณแม่อย่างเรารู้อะไรได้บ้าง

10 ลักษณะและสีของ อึลูก บอกอะไรคุณแม่บ้าง?

1.อึลูกสีเทา เขียวเข้ม เกือบดำ(ขี้เทา)

หลังจากที่คุณแม่คลอดลูกน้อย ประมาณ 1-2 วัน ภายใน 12-24 ชั่วโมง  แต่ไม่เกิน 48 ชั่วโมง ลูกน้อย จะถ่ายอุจจาระครั้งแรก อึจะมีลักษณะเหนียว สีเข้มเกือบดำ ซึ่งเกิดจากการที่ลูกกลืนน้ำดี เข้าไปและระบบย่อยอาหารของลูกน้อยทำงานตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ นั้นเอง จึงกลายเป็น อึสีเทา ( Meconium ) คือสารที่ถูกสร้างขึ้นในลำไส้ของทารก  ซึ่งถ้ามีลักษณะดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็นับว่าระบบย่อยอาหารของลูกน้อยทำงานได้ดีค่ะ ไม่ผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งลูกจะขับถ่าย 1-2 ครั้งต่อวัน

2.อึลูกสีเหลืองเขียวจาง ๆ

หลังจากที่คุณแม่คลอดลูกน้อยได้ 2 วัน อุจจาระของลูกจะเริ่มเป็นสีเขียวจางลง มีน้ำปนมากขึ้น บางคนจะมีสีน้ำตาลปนเม็ดๆ ในอุจจาระ ทารกที่ขับถ่ายขี้เทาได้ดีในวันแรกๆ เป็นตัวบ่งชี้ว่าทารกได้รับพลังงานจากน้ำนมแม่ได้พอเพียงและลดความเสี่ยงที่จะเกิดตัวเหลือง  ช่วงนี้ลูกจะขับถ่าย 1-2 ครั้ง ต่อวัน

3.อึลูกสีเหลือง

หลังจากที่คุณแม่คลอดลูกน้อยได้ 3 วัน เป็นต้นไป อึของลูกจะมีสีเหลืองเป็นเนื้อเนียน ซึ่งหลังจากนี้ไปหากลูกกินนมแม่ลักษณะอุจจาระจะเป็นสีเหลืองแบบนี้  แต่ถ้าคุณแม่ให้ ลูกกินนมผสม อึของลูกจะเป็นก้อน ลูกจะขับถ่าย 3-4 ครั้งต่อวัน บางคนอึทุกครั้งที่กินนมแต่จะค่อย ๆ ลดจำนวนลงเมื่ออายุครบเดือน

4.อึลูกสีดำเหมือนถ่าน

ลักษณะเช่นนี้อาจเกิดจากสาเหตุ 2 ประการ ประการแรกคุณแม่อาจให้ลูกกินอาหารที่มีธาตุเหล็กมากเกินไป ถ้าไม่ใช่ อาจมีสาเหตุมาจากเลือดออกในทางเดินอาหาร ต้องรีบพาไปพบคุณหมอเช็คอาการ

5.อึลูกมีกลิ่นเหม็น (บางคนเหม็นคาวๆ)

เกิดจากสาเหตุของการเจ็บป่วย ถ้าอึลูกเหลวพร้อมกับมีกลิ่นเหม็นมากมักเกิดจากโรคท้องเดิน ถ้ามีกลิ่นปกติหรือกลิ่นคล้ายกับอาหารที่กินเข้าไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

6.อึลูกเหลวมีน้ำปน

ถ้าอึเป็นน้ำเหลวพุ่งจู๊ดจู๊ด และอึบ่อย ๆ อาจจะเกิดเพราะระบบการย่อยไม่ดี กินอาหารไม่สะอาด หรือมีโรคติดเชื้อที่เรียกว่าเป็นโรคท้องเดิน ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรพาไปพบหมอ เพราะบางครั้งการอึบ่อยจนเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายลูกน้อยขาดน้ำก็เป็นได้

7.อึลูกสีขาวซีด

ถ้าหนูน้อยของคุณแม่อึออกมาสีแบบนี้อย่าเพิ่งตกใจ แต่ก็ให้รีบพาลูกน้อยไปพบคุณหมอโดยเร็ว เพราะอาจเกิดจากภาวะท่อน้ำดีอุดตัน

8.อึลูกมีเลือดปน

ลูกอึมีเลือดปนนิดๆ ที่ด้านนอกไม่ได้ปนมาในเนื้ออึ แสดงว่าเป็นเลือดจากภายนอก มักจะเกิดจากแผลบริเวณทวารหนัก เนื่องจากท้องผูก หรืออึเป็นก้อนแข็งมากก็เลยครูดบริเวณทวารหนักของหนูน้อยจนเลือดออกได้ คุณแม่อาจจะให้ลูกดื่มน้ำเพิ่มขึ้น หรือในเด็กเล็กให้ดื่มน้ำส้มคั้นเจือจาง แต่ถ้าเป็นเด็กโตก็ให้ดื่มได้ในปริมาณที่เหมาะสม

9.อึลูกมีมูกปนเลือด

ถ้าลูกน้อยอึออกมาแล้วมีมูกปนเลือดออกมาด้วย อาการเช่นนี้อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของลำไส้ หรือท้องเดินชนิดรุนแรง การอึออกมาเช่นนี้ก่อนอึลูกจะมีอาการบิด และร้องเท่านี้พ่อกับแม่ก็ตกใจกันเป็นแถว ๆ แล้วค่ะ อาการแบบนี้ต้องพบแพทย์โดยด่วน

10.อึลูกแข็ง

ถ้าลูกน้อยที่เคยอึดีมาตลอด แต่สองสามวันมา กลับอึเว้นช่วงห่างออกไป แถมยังอึยากเมื่อออกมาก็เป็นก้อนแข็งขึ้น อาการเช่นนี้อาจเป็นเพราะลูกน้อยเริ่มเป็นหวัด เจ็บคอ หรือมีโรคอื่นๆ เพราะเชื้อโรคที่มีอยู่ในร่างกายทำให้ลูกน้อยเบื่ออาหาร และลำไส้ทำงานน้อยลง

                เห็นอย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายๆ คน คงจะไม่พลาดในสิ่งเหล่านี้แล้วใช่ไมค่ะ ถึงลูกน้อยจะพูดไม่ได้แต่ก็ยังสามารถบอกได้จากการ   อึ (อุจจาระ) นะคะ ขอให้คุณแม่พยายามสังเกตอยู่เสมอๆ

http://www.maerakluke.com/