ระดับการแสดงออกที่เหมาะสมตามวัย ทั้งด้านการพูด การส่งเสียง สีหน้าท่าทางและกิริยาทางร่างกาย คุณพ่อคุณแม่จึงควรปลูกฝังและกระตุ้นถึงวิธีการแสดงออกของความรู้สึกความต้องการ เพื่อนำไปสู่การตอบสนองที่ถูกต้อง ซึ่งเริ่มได้ตั้งแต่แรกเกิดเลยค่ะ
1-3 เดือนแรก แม้ร้องแค่ อือ..อา ก็มีความหมาย
นอกจากร้องไห้แล้วจะเปล่งเสียงได้เพียงสั้น ๆ เช่นคำว่า อา อือ อู้ อี้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าพัฒนาการต่าง ๆ ยังเติบโตไม่เต็มที่และไม่พร้อมที่จะสื่อสารกับพ่อแม่ด้วยการพูด การที่ลูกน้อยเปล่งเสียงออกมาได้ไม่ว่าจะมากหรือน้อย สะท้อนถึงความสมบูรณ์ของระบบการออกเสียงที่ปกติ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่เริ่มต้นสื่อสารกับลูกทั้งโดยการพูด การร้องเพลง การเปิดเพลงให้ฟัง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการฝึกการแสดงออกของลูก เพราะหากไม่มีสิ่งเร้าภายนอกที่ว่านี้แล้วการแปลงข้อมูลในสมองและการพัฒนาระบบการได้ยินก็จะทำงานได้น้อยตามไปด้วย และลูกก็จะแสดงออกน้อยไปด้วยค่ะ
4-6 เดือน ตั้งใจฟังหน่อย หนูสื่อสารได้แล้วนะคะ
วัย 4-6 เดือนส่วนใหญ่ ได้แก่ การหัวเราะเสียงดัง การทำเสียงอืออาในลำคอ การแสดงสีหน้าที่พอดูได้ว่าพอใจหรือไม่ หากพอใจและมีความสุขก็จะยิ้มและมีแววตาเป็นประกายสดใส แต่หากไม่พอใจหรือโกรธก็จะทำหน้าบึ้ง ซึ่งการดีความกิริยาเหล่นี้ขึ้นอยู่กับการสังเกตของพ่อแม่ เพราะเด็กยังไม่สามารถพูดออกมาได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรกระตุ้นตอบสนองตามการสื่อสารของลูกเสมอ เช่น ช่วยเหลือดูแลเมื่อลูกงอแงไม่สบายตัว หยอกล้อให้ลูกอารมณ์ดีและหัวเราะบ่อย ๆ หัวใจสำคัญของการแสดงออกก็คือ ปล่อยให้ลูกได้แสดงอารมณ์ที่เขาต้องการ รับฟังทุกอารมณ์ของลูก และไม่บังคับให้ลูกทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับอารมณ์ เช่น บังคับให้เล่นในเวลาที่ลูกง่วง หรือบังคับให้ลูกนอนในเวลาที่ต้องการเล่นเพราะจะทำให้ลูกหงุดหงิดและมักแสดงออกถึงอารมณ์ในด้านลบอยู่เสมอ
7-9 เดือน วัยเลียนแบบ ศักยภาพที่รอวันแสดงออก
มีงานวัยหลายสำนักที่กล่าวกันว่าเด็กทารกสามารถจดจำและเรียนรู้คำศัพท์ที่ได้ยินแล้วตั้งแต่วัย 7 เดือน เพียงแต่ยังไม่สามารถตอบโต้ได้ออกมาเป็นคำศัพท์แบบเดียวกับที่ได้ยิน ลูกน้อยในวัยนี้มีความสนใจใคร่รู้รอบด้านคุณพ่อคุณแม่จึงควรแสดงอารมณ์ทางบวกกับลูกอยู่เสมอผสมผสานกับการบอกเล่าสิ่งต่าง ๆ เช่น บอกกับลูกว่า "วันนี้อากาศสดใสมาก แม่ชอบจังเลย" พร้อมพาลูกออกไปชมวิวทิวทัศน์ข้างนอกอย่างสบายใจ หากจะปฏิเสธลูกก็ให้ส่ายหน้าและพูดเหตุผลกับลูกดี ๆ เช่น "วันนี้ฝนตก เราออกไปเดินเล่นไม่ได้นะ ไว้พรุ่งนี้แม่จะพาไปนะจ๊ะ" เป็นต้น การทำเช่นนี้เป็นประจำจะทำให้ลูกรู้วิธีแสดงออกที่สอดคล้องกับอารมณ์และสถานการณ์ พร้อมเรียนการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองอีกด้วย
10-12 เดือน ได้เวลาแสดงตัวตน
สำหรับวัยนี้สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฝึกฝนมาแต่ต้นจะเห็นผลได้ชัดเจนมากขึ้นแล้วค่ะ เพราะลูกน้อยจะรู้จักวิธีคิดและเลือกการแสดงออกที่สอดคล้องกับสิ่งที่ตนเองต้องการได้มากขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยื่นแขนให้อุ้มเมื่อต้องการให้อุ้ม การอ้อนในรูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น หอมแก้มคุณพ่อคุณแม่ เข้ามาใกล้แล้วกอด ซบหน้ากับอก การแสดงออกที่ชัดเจนมากขึ้นในวัยนี้กำลังจะเป็นพื้นฐานบุคลิกนิสัยที่จะติดตัวเด็กต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการแสดงออกของอารมณ์โกรธ กลัว โมโห ชอบใจ ซึ่งหากสังเกตให้ดีก็จะยิ่งเข้าใจนิสัยใจคอของลูกมากขึ้นเพื่อที่จะได้ส่งเสริมกิจกรรมที่ลูกชอบและทำได้ดี หรือแก้ไขพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมได้ทันท่วงทีด้วยเช่นกัน ซึ่งเคล็ดลับที่ช่วยให้ลูกแสดงออกได้ดีคือ รับฟังลูก ให้เวลาและโอกาสในการแสดงออกอย่างอดทนและใจเย็นด้วยค่ะ
Cr: http://baby.kapook.com/
หน้าที่เข้าชม | 2,838,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,497,358 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |