แม่จ๋า อย่าดัดขาหนู!!

   ความเชื่อเกี่ยวกับการดัดขาลูกน้อยหลังอาบน้ำจะช่วยให้ขาตรงมากขึ้นนั้น ไม่เป็นความจริง และไม่ควรทำค่ะ เนื่องจากหากออกแรงดัดมากเกินไปอาจจะทำให้ลูกน้อยรู้สึกเจ็บได้

    ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่าภาวะขาโก่ง เป็นหนึ่งในพัฒนาการปกติของเด็กทารก เมื่อแรกเกิด ถึง 2 ปี จะพบภาวะขาโก่งที่เกิดจากธรรมชาติ โดยพบขาลูกน้อยบริเวณเข่างอโค้งออก ขาจะทำมุมชี้ออกด้านนอก แต่เดินไม่กะเผลก สาเหตุเนื่องจากช่วงที่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์ 1-2 เดือนสุดท้าย มักจะอยู่ในท่างอขา เท้า ศอก และสะโพก เนื่องจากมดลูกมีพื้นที่จำกัด ทำให้เกิดการตึงของเส้นเอ็น และการรั้งของกล้ามเนื้อด้านในของข้อเข่า เมื่อคลอดจึงมีลักษณะขาโก่ง คุณแม่เพียงส่งเสริมให้ลูกใช้กล้ามเนื้อขา ตามช่วงวัย คว่ำ คืบ คลาน ตั้งไข่ เมื่อลูกเดินได้ ขาจะค่อยๆ ตรงได้เองเมื่ออายุได้ 2-3 ขวบค่ะ

สำหรับภาวะขาโก่งที่ผิดปกตินั้น มีสาเหตุจากมีโรคไปรบกวนเยื่อเจริญขาทำให้โตไม่ปกติ เช่น เนื้องอกกระดูกขาไปเกิดใกล้กับเยื่อเจริญทำให้การเจริญไม่สมดุล หรือโรคพันธุกรรมหลากหลายชนิด รวมถึงปัจจัยเสริมที่ทำให้ลูกขาโก่งมากขึ้น เช่น ยืนหรือเดินเร็วก่อนวัย เด็กมีน้ำหนักมาก โรคกระดูกอ่อน วิธีการสังเกต ต้องเหยียดเข่าให้ตรงสุด หันลูกสะบ้าตรงมาด้านหน้า นำข้อเท้ามาชิดกัน โดยช่องว่างระหว่างขอบด้านในของเข่าไม่ควรห่างมากกว่า 5 ซม. หรือถ้านำข้อเท้ามาชิดกัน แต่เข่าลูกซ้อนกันหรือเกยกัน เวลายืนหรือเดินเด็กจะหมุนขาเข้าใน หรือหลัง 3 ขวบไปแล้ว ขาลูกยังมีลักษณะโก่ง คือ บริเวณเข่าโค้งออก มีอาการเท้าปุก แนะนำให้คุณแม่พาลูกไปพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ชัดเจนค่ะ

หากสงสัยว่าลูกน้อยมีปัญหาขาโก่งหรือไม่ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยว่าเป็นลักษณะขาโก่งแบบปกติและหายได้เองเมื่อโตขึ้น หรือเป็นภาวะขาโก่งที่ผิดปกติ 

ที่มา: HiQKidsClub