การส่งเสริมพัฒนาการโดยกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง ๕ได้แก่
การสัมผัสทางกาย ได้แก่ การอุ้มกอดด้วยความรัก นุ่มนวล ทำให้เด็กรับรู้ได้ถึงความอบอุ่น มั่นคง และปลอดภัย จัดท่านอนเพื่อให้เด็กนอนหลับสบาย เด็กพักผ่อนได้เต็มที่
สัมผัสทางเสียง พูดคุยกับเด็ก ร้องเพลง หรือเปิดเพลงให้ฟังเบาๆ ในระดับเสียงไม่ดังเกินไป
สัมผัสทางการลิ้มรส เด็กที่ได้รับนมแม่ จะคุ้นเคยกับรสชาดของน้ำนมแม่
สัมผัสทางการดมกลิ่น เด็กที่ได้รับนมแม่จะคุ้นเคยกับกลิ่นน้ำนมและกลิ่นกายของคุณแม่
สัมผัสทางสายตา อุ้มเด็กไว้ใกล้ๆบริเวณใบหน้า พูดคุยและจ้องมองเด็ก ขยับใบหน้าไปมาให้เด็กมองตาม หรือให้จ้องมองของเลานที่มีสีสดใส
พัฒนาการตามวัย
ทารกแรกเกิด เด็กจะจ้องใบหน้าเมื่อผู้ใหญ่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ และสามารถจดจำใบหน้านั้นได้ เมื่อได้ยินเสียงก็จะมองหาและพยายามมองตามใบหน้าของผู้ใหญ่ที่เคลื่อนไหว
อายุ ๑ เดือน หากยื่นหน้าเข้าใกล้ทารกในระยะมองเห็น(ประมาณ ๑ ฟุต) ทารกจะเมองใบหน้า และหากพูดคุยด้วยทารกก็จะพยายามขยับริมฝีปาก ถ้าหากทารกร้องไห้ก็จะเงียบเมื่อมีคนอุ้มเข้าสู่อ้อมกอด
อายุ ๑ เดือนครึ่ง ทารกจะยิ้มให้ และจะมองตามของเล่นที่เคลื่อนที่ได้ เช่น โมบาย
อายุ ๒ เดือน ทารกจะมองตามกรุ๋งกริ๋งที่เคลื่อนผ่านสายตาไปมา ทารกบางคนถือกรุ๋งกริ๋งชิ้นเล็กๆที่มีน้ำหนักเบาไว้ในมือได้
อายุ ๓ เดือน ทารกจะยิ้มเมื่อมีคนพูดคุยด้วย และสามารถส่งเสียงตอบอ้อแอ้อย่างอารมณ์ดี
อายุ ๔ เดือน ชอบหยิบของเล่นเข้าปาก หัวเราะเสียงดังเมื่อมีคนเล่นด้วย พลิกคว่ำได้ ชอบให้จับลุกขึ้นนั่ง
อายุ ๕ เดือน ใช้แขนสองข้างยกอกพ้นพื้นได้ หมุนตัวไปรอบๆที่นอน เมื่อจับลุกขึ้นยืนเท้าทั้งสองข้างจะวางบนพื้น
อายุ ๖ เดือน ทารกบางคนสามารถนั่งได้ ชอบเล่นกระจกเงา ชอบเลียนแบบเล่นริฝีปาก เดาะลิ้น บางคนชอบเล่นน้ำลายเป็นฟอง
อายุ ๗ เดือน นั่งได้มั่นคง ทารกบางคนจะกลัวคนแปลกหน้า
อายุ ๘ เดือน เริ่มคลานได้ รู้จักชื่อตัวเอง เริ่มเข้าใจคำว่า “อย่า”หรือ “ไม่”เริ่มหัดพูด
อายุ ๙ เดือน เริ่มแสดงความต้องการโดยการชี้หรือสื่อให้ผู้เลี้ยงดูทราบว่าตนต้องการอะไร เริ่มสำรวจสิ่งของที่อยู่ในตู้เก็บของ ลิ้นชักโต๊ะหรือในกล่อง เหนี่ยวเฟอร์นิเจอร์ลุกขึ้นยืนเองได้
อายุ ๑๐ เดือน เริ่มตบมือได้ บ๊ายๆได้ เริ่มเข้าใจคำพูดง่ายๆสั้นๆ เกาะยืนได้
อายุ ๑๑ เดือน เริ่มตั้งไข่ ชอบส่งเสียงดัง ชอบโยนของเล่น
อายุ ๑๒ เดือน เริ่มเดินได้ เริ่มพูดเป็นคำ ชอบดูภาพในหนังสือ เริ่มฟังประโยคสั้นๆเข้าใจ
EQ พัฒนาง่ายๆตามวัยแค่
1.การอ่านหนังสือให้ลูกฟังปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้เด็กผ่อนคลายและเพลิดเพลินไม่ติดทีวีเมื่อโตขึ้น หนังสือพลาสติกนิ่มๆหนาประมาณ ๔ หน้า เหมาะสำหรับทารกวัยเริ่มฝึกพูค อายุต่ำกว่า ๑ ปี เมื่ออายุเกิน ๑ ปี ควรเป็นหนังสือปกแข็ง เพราะฉีกขาดยาก หรือบัตรคำเพื่อใช้ฝึกพูดเป็นคำๆ เมื่อถึงวัยอนุบาลลักษณะหนังสือที่อ่านก็จะเป็นนิทานที่มีเนื้อหาไม่ยาวมากนัก เด็กชอบฟังนิทานเรื่องเดิมซ้ำหลายๆครั้งจนจำได้และสามารถเล่าให้คนอื่นฟังได้ด้วย
2.ปล่อยให้ลูกเป็นฝ่ายชี้นำ
พยายามดึงจุดเด่นของเด็กออกมา และช่วยเหลือพัฒนาจุดด้อยของเด็กให้ดีขึ้น ให้ความช่วยเหลือเมื่อเขาต้องการ ไม่ควรให้การช่วยเหลือหรือยัดเยียดสิ่งที่เด็กไม่ต้องการหรือไม่ชอบ ดังนั้น ผู้ใหญ่จึงช่วยให้ถูกวิธี ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการบงการ เด็กควรจะได้เรียนรู้สิ่งที่ตนสนใจ ไม่ใช่เรียนรู้ตามความต้องการของผู้เลี้ยงดู
3.การเรียนรู้และการเล่นสนุก
การเล่นของเด็กก็คือการเรียนรู้ เด็กได้ฝึกทักษะการใช้มือจากการหยิบจับของเล่น การเล่นกับเด็กคนอื่นๆสอนให้เด็กเข้าใจความสำคัญของการปรับตัวเข้าสังคม รู้จักการควบคุมอารมณ์ การแบ่งปัน การแก้ปัญหา การใช้ภาษา
ที่มา http://www.med.cmu.ac.th