จริงๆ แล้วนมแม่เป็นสิ่งที่เหมาะกับลูกมากที่สุดในช่วงแรกเกิดถึงหกเดือน สารอาหารต่างๆ ที่ร่างกายคุณแม่มีได้ถ่ายทอดผ่านน้ำนมเพื่อเป็นอาหารของลูก ในน้ำนมแม่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต โปรตีนไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ในปริมาณที่เหมาะสม ร่างกายของลูกสามารถดูดซึมได้โดยไม่ต้องผ่านการย่อย เพราะฉะนั้นจึงผ่านได้โดยสะดวกและดูดซึมได้ดี แต่เนื่องจากคุณแม่บางท่านอาจลางานได้แค่สามเดือน เพราะฉะนั้นหลังสามเดือนไปแล้วควรมีน้ำนมแม่สำรองเก็บไว้ หากคุณแม่รับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่เพียงพอจะส่งผลให้มีน้ำนมไม่เพียงพอกับลูก ซึ่งในกรณีนี้อาจจะพิจารณาให้นมผสมร่วมกับนมแม่เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
เมื่อลูกอายุ 6 เดือนขึ้นไปถือเป็นช่วงเวลาที่พร้อมจะให้อาหารเสริมได้แล้ว สามารถนับแทนเป็น 1 มื้อได้ แต่นมก็ยังเป็นสิ่งที่ลูกต้องการอยู่ หากคุณแม่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ ควรเลือกนมผสมที่มีคุณสมบัติเหมาะกับทารกและเด็กในแต่ละวัย
ลูกน้อยช่วงอายุ 6-8 เดือนนี้จะกินนมเป็นอาหารหลัก และมีอาหารเสริมเพียง 1 มื้อ ในแต่ละมื้อควรได้รับข้าวอย่างน้อย 2 – 3 ช้อนโต๊ะและเนื้อสัตว์ 1 ช้อนโต๊ะ (จะเป็นเนื้อหมู ไก่ หรือปลาก็ได้ ถ้าเป็นเนื้อปลา คุณแม่ต้องสังเกตด้วยว่าลูกมีอาการแพ้หรือไม่ อาจจะเริ่มด้วยปลาน้ำจืดอย่างปลาช่อน หรือถ้าคุณแม่มั่นใจว่าลูกไม่แพ้ก็สามารถเริ่มด้วยปลาทะเลได้เลย) นอกจากนี้ควรให้กินผักสี ผักใบที่เนื้อนิ่ม ไม่มีกากหรือเสี้ยน รวมทั้งเริ่มเสริมผลไม้ เน้นเป็นผลไม้ชิ้นไม่ใช่น้ำผลไม้ และสามารถเริ่มให้ไข่แดงต้มสุกได้ตอน 7 เดือน
อาหารที่เคยบอกว่าเป็นเพียง 1 มื้อก็สามารถปรับเป็น 2 มื้อได้ หลังจากอายุ 10 เดือนขึ้นไป สามารถปรับเป็น 3 มื้อได้เลย แต่ทั้งหมดตรงนี้ไม่ใช่ว่าตั้งแต่ 6 เดือนเราจะลดนมนะคะ คุณแม่ยังคงต้องให้ลูกกินนมอย่างต่อเนื่อง(ไม่ว่าจะเป็นนมแม่หรือนมผสม)เพราะนมเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีมีแคลเซียม วิตามิน และแร่ธาตุที่เหมาะสม คุณแม่ต้องมีวิธีในการให้อาหารลูกคือ ไม่ใช่ว่าในหนึ่งมื้อให้ทั้งนม 1 แก้วและอาหาร 1 จาน แบบนี้เด็กจะรับไม่ไหว การเสริมนม อาจเป็นช่วงสิบโมงบ่ายสองโมง หรือหลังอาหารเย็น มีการแบ่งเวลาแต่ละมื้อให้แก่ลูก
ที่มา https://th.theasianparent.com
หน้าที่เข้าชม | 2,838,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,497,358 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |