ระยะแรกเริ่มจาก 1 มื้อ โดยอาจเป็นมื้อกลางวัน เช่น เป็นข้าวบด 1 มื้อ 1 สัปดาห์ จากนั้นก็ค่อยปรับเปลี่ยนเป็นอาหารชนิดอื่น การให้ลูกน้อยได้รู้จักอาหารทีละชนิดก็เพื่อสังเกตระบบย่อยระบบขับถ่าย หรือผิวหนังของลูกว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร เช่น จากการแพ้อาหารบางชนิด เป็นต้น
ข้าวสวย 4 ช้อนกินข้าว
น้ำแกงจืด 10 ช้อนกินข้าว
เนื้อปลาทะเลที่ไม่มีก้างบด 1 ½ ช้อนกินข้าว
แครอทต้มหั่นเต๋าเล็กๆ 2 ช้อนกินข้าว
นำวัตถุดิบทั้งหมดมาปรุงผสมเข้าด้วยกัน เท่านี้ก็ได้อาหารเสริมป้อนให้ลูกได้แล้วค่ะ
ข้าวสวย 5 ช้อนกินข้าว
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 1/3 ฟอง
น้ำแกงจืด 10 ช้อนกินข้าว
เนื้อไก่ 1 ช้อนกินข้าว
ตับไก่ ¼ ช้อนกินข้าว
ฟักทอง 2 ช้อนกินข้าว
ผักหวาน 2 ช้อนกินข้าว
ให้นำเอาข้าวสวยผัดกับไข่ โดยไม่ต้องปรุงรสเพิ่มเติมนะคะ จากนั้นให้ทำแกงจืดตามส่วนผสมที่ให้ไว้ทั้หมดค่ะ เท่านี้ก็ได้อาหารไว้ป้อนลูกแล้วค่ะ อาหารของลูกวัย 1 ปีขึ้นไปจะเป็นการให้อาหารมื้อหลัก 3 มื้อ แล้วนมจะเป็นการให้กินเสริมแทนค่ะ
แม้จะเป็นทารกแต่ลูกน้อยก็มีความพร้อมกินอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวที่เนื้ออาหารค่อนข้างละเอียด ด้วยวิธีการบด เพื่อให้กลืนได้ง่าย และลูกจะได้ฝึกทักษะการเคี้ยวและการกลืน ไม่ควรใช้วิธีปั่นอาหารเสริมทารก เพราะอาหารจะละเอียดเกินไป ลูกไม่ได้ฝึกการเคี้ยว การกลืน จะส่งผลให้เมื่อโตขึ้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกกินอาหารยากขึ้น
พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตว่าลูกสามารถเคี้ยวและกลืนได้ดีขึ้นหรือยัง และค่อยๆ ปรับเนื้ออาหารหยาบขึ้น เป็นชิ้นเล็กๆ เนื้ออาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับอาหาร ได้สัมผัสรสอาหารมากขึ้น รู้สึกว่าอาหารนี้กินแล้วอร่อย กินแล้วสนุก และมีทัศนคติที่ดีกับอาหาร ส่วนเด็กที่กินแต่อาหารเนื้อละเอียดมาก ทำให้เขาไม่ได้รับสัมผัสและรสชาติของอาหาร เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กินยากเมื่อโตขึ้น
ตามช่วงวัย เช่น
ควรอยู่ที่ประมาณ 15-20 นาที แต่ไม่ควรเกิน 30 นาที และเมื่ออายุได้ราว 9 เดือนลูกน้อยจะเริ่มใช้นิ้วหยิบอาหารได้ ควรเปิดโอกาสให้ลูกหยิบอาหารกินเอง หรือมีช้อนส้อมให้ลูกถือ เป็นการเริ่มฝึกกินด้วยตัวเองค่ะ
หน้าที่เข้าชม | 2,838,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,497,358 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |