***เมื่อคุณแม่คลอดลูก ถือว่าเป็นข่าวดี ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็ต่างอยากมาแสดงความยินดีกับพ่อแม่มือใหม่ แต่เวลาคนมาขอหอมขออุ้มลูกเราเนี่ย แม่ไม่สบายใจเลยจะปฏิเสธก็กลัวจะทำลายความรู้สึก กลัวเขาจะโกรธเอา แต่ก็กลัวลูกเราจะป่วย เด็กเล็กแบบนี้เค้าบอปบาง เจ็บตรงไหนก็บอกไม่ได้ จะหาทางป้องกันหรือปฏิเสธอย่างไรดี วันนี้เด็กทารกEverything มีวิธีมาบอกค่ะ พ่อแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ***
1.อาการแพ้ ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ ทารกบอปบางมาก อาจแพ้เครื่องสำอาง หรือเหงื่อจากผู้ใหญ่ค่ะ คุณแม่เองหากหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าไม่ได้ก็ให้ใช้ เครื่องสำอางแบบออร์แกนิค ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือน้ำมันต่าง ๆ ที่ปลอดสารสังเคราะห์มากที่สุดนะคะ
2.RSV โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก พบในช่วงที่มีอากาศชื้นโดยเฉพาะหน้าฝน แถมยังติดต่อกันได้ง่ายเพียงการสัมผัสใกล้ชิด หรือสัมผัสสารคัดหลั่งทางตาหรือจมูก และทางลมหายใจ
3. 4S สตาฟิโลค็อกคอล สเกลด์ สกิน ซินโดรม หรือ Staphylococcal scalded skin syndrome (SSSS)
โรคติดเชื้อทางผิวหนัง เป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ตามผิวหนังของคนเราทั่วไป มีโอกาสเกิดขึ้นบ่อย โดยเฉพาะเด็กทารกแรกเกิดหรือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ในเด็กที่มีโรคประจำตัว อย่าง โรคหัวใจ , โรคปอด หรือโรคหอบหืดอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดอาการที่หนักจนถึงขั้นหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งนอกจากจะได้รับเชื้อจากผิวหนังของตนเองแล้ว เด็กยังมีโอกาสรับเชื้อจากการสัมผัสตัวของผู้ใหญ่ด้วยค่ะ
4.เริม โรคติดเชื้อจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ มี 2 ชนิดคือ HSV1 ก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องปากและริมฝีปาก และ HSV2 เป็นการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเชื้อเริมที่ทำให้ทารกเสี่ยงเสียชีวิตนั้น มักมาจากเชื้อที่เกิดจากเพศสัมพันธ์ และติดเชื้อที่จุดซ่อนเร้น แล้วเชื้อนี้แพร่กระจายไปสู่ทารก โดยทารกติดเชื้อนี้ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ผ่านทางเยื่อหุ้มทารกนอกจากนี้ทารกยังติดเชื้อเริมได้ในช่วงเวลาหลังคลอดด้วย ผ่านการสัมผัสจากบุคคลที่มีเชื้อเริมอยู่ แม้จะเป็นเริมสายพันธุ์ไม่รุนแรง แต่ก็ส่งผลรุนแรงต่อเด็กได้
5.หัด โรคหัดเป็นไข้ออกผื่นพบได้บ่อยในเด็กอายุ 1-6 ขวบ ติดต่อกันผ่านการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย และการสัมผัสตัวกับผู้ที่มีเชื้อ ระยะฟักตัวประมาณ 8-12 วัน หลังจากนั้นจะมีไข้ น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง ผื่นจะขึ้นประมาณวันที่ 4 และหายภายใน 14 วัน
โดยระหว่างนี้การปฐมพยาบาลหากมีไข้สูงก็ให้ยาลดไข้ ยาขับเสมหะ และเช็ดตัว แต่ไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยอาจจะมีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นได้ อาทิ ปอดอักเสบ อุจจาระร่วง ช่องหูอักเสบ สมองอักเสบและภาวะทุพโภชนาการ โดยเฉพาะในเด็กขาดสารอาหาร หรือขาดวิตามินเอ เมื่อเป็นหัดจะมีความรุนแรงมาก และถ้ามีปอดอักเสบร่วมด้วย อาจทำให้เสียชีวิตได้
6.อีสุกอีใส
โรคอีสุกอีใส หรือ Chickenpox เกิดจากเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ ไวรัส (Varicella zoster virus หรือ เรียกย่อว่า VZV/ วีซีวี ไวรัส) หรือ ฮิวแมนเฮอร์ปี่ไวรัส ชนิดที่ 3 (Human herpes virus type 3) ซึ่งเป็นเชื้อเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคงูสวัด ติดต่อโดยการหายใจ ไอ จามรดกัน หอมแก้ม หรือการสัมผัสถูกตุ่มแผลสุกใส สัมผัสถูกของใช้ เช่น ที่นอน ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ที่เปื้อนตุ่มแผลของผู้ป่วย หายใจเอาละอองของตุ่มน้ำผ่านเข้าไปทางเยื่อเมือก
วิธีป้องกัน
1.ล้างมือทุกครั้งก่อนเข้าเยี่ยม และถ้าคุณแม่เลี้ยงทารกแรกเกิดอยู่ อย่าแตะต้องตัวทารกเด็ดขาด เพราะเสื้อผ้าหรือมือของผู้ไปเยี่ยมอาจไม่สะอาดพอ ทำให้เด็กแรกเกิดไม่สบายได้หากมีญาติๆหรือเพื่อนมาเยี่ยมให้ทุกคนล้างมือให้สะอาดและงดการหามหรือสัมผัสใบหน้าทารกค่ะ และสังเกตุดูห้ามคนปป่วยหรือคนที่มีโรคประจำตัวเข้าเยี่ยมน้องนะคะ
2. ให้ลูกกินนมแม่ตั้งแรกเกิดจนถึง 6 เดือน หรือนานที่สุด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก นมแม่ดีที่สุด คำนี้เป็นความจริงคุณแม่ท่านไหนสะดวกให้นมลูก เอาให้เต็มที่เลยค่ะลูกได้ภูมิคุ้มกันเต็มๆนะคะ
3. อุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าของลูก ต้องสะอาดอยู่เสมอ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ รีโมทต่าง ๆ ทำความสะอาดโดยการเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อบ่อย ๆนะคะ เพราะสิ่งของพวกนี้ขึ้นชื่อว่าสกปรกมากที่สุด เชื้อโรคอาจติดมือพ่อแม่และเมื่อไปสัมผัสลูกอาจทำให้ลูกป่วยได้
4.ไม่ควรนำเด็กวัยหัดเดิน หรือเด็กวัยก่อนอนุบาลเข้าไปเยี่ยมเด็กทารก เพราะเด็กวัยนี้มักจะเป็นไข้หรือหวัด และเป็นพาหะนำโรคต่าง ๆ ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เด็กวัยนี้เมื่อเห็นน้องน่ารักอาจจะอยากหอมน้องโดยไม่รู้เดียงสา แต่ก็อาจจะทำให้เด็กทารกป่วยได้เช่นกัน
5. อย่าให้คนแปลกหน้า กอด หอม หรือจับบริเวณใบหน้าของลูก ญาติพี่น้องยังบอกแล้วบอกอีก ใครไม่ฟังแม่มองตาเขียวเลยนะคะ นับประสาอะไรกับคนแปลกหน้า ห้ามนะคะแม่อย่าเกรงใจ แต่บอกแบบรักษาน้ำใจได้ค่ะ เช่น น้องยังเด็ก ยังไม่ค่อยแข็งแรงขอโทษด้วยนะคะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เป็นการปฏิเสธโดยความไม่เสียความรู้สึกทั้งคู่ค่ะ
6.เรื่องนี้สำคัญมาก นั่นคือการสูบบุหรี่ หากรู้อยู่แล้วว่ากำลังจะไปเยี่ยมเด็กแรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือที่ทำงาน ก็ควรที่จะไม่สูบบุหรี่ อดใจรอไว้ก่อน เพราะต่อให้ล้างมือแล้ว กลิ่นเขม่าควันก็จะติดอยู่ตามมือตามตัว และนั่นก็อาจจะส่งผลให้เด็กมีอาการแพ้ และรับสารพิษได้สูงค่ะ
7. หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในที่ที่แออัดและผู้คนพลุกพล่าน เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า หรือในโรงพยาบาล อย่าเพิ่งเลยนะคะ เชื้อโรคทั้งนั้นค่ะ รอให้ลูกโตอีกหน่อยนะคะอย่าใจร้อนไป ในโรงพยาบาลเชื้อโรคเยอะมากไม่ควรพาออกนอกแผนกเด็กถ้าคุณหมอไม่อนุญาตนะคะบางคนพาลูกเล็กไปตลาดนัดทั้งควันจากของย่างกลิ่นน้ำมันจากของทอดคนไอจามเยอะแยะไปหมด กลับมากลายเป็นว่าลูกป่วย ไม่ดีนะคะ
.....อย่างไรก็ตามพ่อแม่ อย่าได้เกรงใจจนเกินไปนะคะ ลูกเราทั้งคน ป่วยไปก็เรานี่แหละลำบากสงสารลูกด้วยนะคะ เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด ค่อยๆบอกค่อยๆเตือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจริงใจ เราเชื่อว่าคนที่รักเราเอ็นดูลูกเราเขาจะเข้าใจได้นะคะ ด้วยความหวังดีจาก เด็กทารกEverything ค่ะ^^.....
หน้าที่เข้าชม | 2,838,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,497,358 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |