วิธีการเลือกแพมเพิสหรือผ้าอ้อมสำเร็จรูป

วิธีการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูป

แพมเพิสมีหลายแบบ หลายยี่ห้อ หลายไซส์ ใช้ตามอายุทารก ใช้ตามน้ำหนักทารก แต่ละแบบต่างกันอย่างไร? แบบไหนกันนะที่ลูกจะใส่สบายไม่อึดอัด? การเลือกแพมเพิสที่ดีและเหมาะกับลูกน้อยของเรานั้นเป็นอย่างไร เด็กทารก Everything Channel รวบรวมมาให้คุณแม่แล้วค่ะ

            ในช่วงแรกเกิด แพมเพิส หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูปเป็นของใช้จำเป็นอย่างแรกๆที่คุณแม่จะนึกถึงเลยใช่ไหมคะ? เพราะลูกน้อยยังไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายของตนเองได้ ทารกต้องใส่อยู่เกือบตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ไปจนถึงก่อนนอน บางยี่ห้อที่นุ่มมากๆ ลูกน้อยก็อาจจะแพ้ได้ค่ะ ดังนั้นในช่วงแรก คุณแม่ซื้อแค่ทดลองใช้ ไม่ต้องซื้อตุนนะคะ และคอยสังเกตของลูกว่ามีผดผื่นจากการแพ้แพมเพิสหรือเปล่าค่ะ หากลูกน้อยไม่แพ้ ก็สามารถใช้ได้ค่ะ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีอะไรบ้างที่ต้องรู้ในการเลือกซื้อผ้าอ้อมให้ลูกน้อย มาดูกันค่ะ

วิธีการเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูป

1. การเลือกแพมเพิสตามน้ำหนักตัวลูก

การเลือกแพมเพิสตามน้ำหนักตัวของลูก จะทำให้เลือกได้พอดีกับตัวลูกน้อยค่ะ เพราะเด็กแต่ละคนก็มีสรีระที่แตกต่างกัน หากแพมเพิสเล็กเกินไป ทำให้รู้สึกอึดอัด บีบรัด ไม่สบายตัว ลูกก็จะมีอาการร้องไห้ งอแง และอาจทำให้อับชื้น หมักหมม จนทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อมไปเลยก็มี แต่ถ้าหากใหญ่เกินไป จะไม่กระชับ ทำให้เลอะเทอะได้ค่ะ

- เด็กแรกเกิด จนถึง 4 กิโลกรัม แนะนำเป็น New Born Size สำหรับเด็กแรกเกิดค่ะ

- เมื่อทารก 4 – 8 กิโลกรัม หรือวัยทารก 3-6 เดือน ให้เลือกซื้อไซส์ Size S ค่ะ

- ทารกหนัก 7 – 12 กิโลกรัม หรือวัยทารก 6 ดือนขึ้นไป กำลังอยู่ในวัยคลานค่ะ แนะนำเลือกซื้อSize Mค่ะ

- ทารกที่มีน้ำหนัก 9 – 14 กิโลกรัม เลือกซื้อ Size L ไซส์นี้เหมาะกับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไปที่คลานและนั่งเองได้แล้วค่ะ

- ทารก 12 – 17 กิโลกรัม ใช้ Size XL เหมาะกับเด็กวัย 3-4 ปีค่ะ

-  เมื่อลูกหนัก15 – 25 กิโลกรัม สำหรับลูกที่เดินและวิ่งได้แล้ว ให้เลือกใช้ไซส์ Size XXL ควบคู่ไปกับการฝึกให้ลูกเข้าห้องน้ำได้เลยนะคะ

2. การเลือกตามลักษณะแพมเพิส

1. แบบเข็มขัด หรือ แบบสายคาดเอวค่ะ เหมาะกับการใช้กับเด็กแรกเกิด เนื่องจากถอดและใส่ได้ง่าย เพราะเด็กแรกเกิดจะนอนอย่างเดียวค่ะ โดยแพมเพิสสำหรับเด็กแรกเกิด จะใช้เทปกาวแบบอ่อนและมีรอยเว้าบริเวณสะดือ เพื่อป้องกันการเสียดสีกับสายสะดือ วิธีการใส่ คุณแม่ให้ลูกน้อยนอนหงาย สอดผ้าอ้อมไปที่สะโพก แล้วรัดสายคาดให้กระชับค่ะ ง่ายมากๆเลย

                2. แบบกางเกง แบบนี้จะกระชับกับตัว สวมง่ายเหมือนกางเกงขาสั้นได้เลย เหมาะสำหรับเด็กช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไปเพราะเริ่มขยับตัวมากขึ้น ผ้าอ้อมแบบกางเกงจะกระชับตัวลูกได้มากกว่าแบบเข็มขัดค่ะ

3. เลือกผ้าอ้อมตามเพศของลูก

ส่วนใหญ่แล้ว ผ้าอ้อมสีฟ้า สำหรับเด็กผู้ชาย ผ้าอ้อมสีชมพู จะสำหรับเด็กผู้หญิงค่ะ เนื่องจากจุดซึมซับของเด็กผู้ชาย จะค่อนไปทางด้านหน้า ส่วนของเด็กผู้หญิง จะค่อนไปทางด้านหลังค่ะ

4. เลือกจากผิวสัมผัส

ผิวของลูกน้อยค่อนข้างบอบบาง และเกิดผื่นแดงหรือผื่นผ้าอ้อมได้ง่ายค่ะ คุณแม่ควรเลือกผ้าอ้อมที่มีผิวสัมผัสนุ่ม ไม่กระด้าง ไม่ระคายเคือง แห้งสบายไม่อับชื้น นอกจากนั้น คุณแม่ต้องเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกอย่างเป็นเวลาด้วยนะคะ เด็กเล็กฉี่บ่อยค่ะ ไม่ควรใส่ผ้าอ้อมให้ลูกนานๆโดยที่ไม่เปลี่ยนนะคะ ผื่นแดงตามมาแน่นอนเลยล่ะค่ะ หากลูกถ่ายหนัก หรือแพมเพิสเริ่มเต็มแล้ว ให้รีบเปลี่ยนทันที ในบางยี่ห้อ จะมีแถบวัดความชื้นเปลี่ยนสีให้ด้วยค่ะ สะดวกมากๆ

5. เลือกตามช่วงเวลาค่ะ

ในช่วงกลางคืนที่ลูกนอนหลับ ให้คุณแม่เลือกผ้าอ้อมที่มีความหนาและนุ่มนะคะ เพราะหากผ้าอ้อมระคายเคืองผิวลูก ก็อาจทำให้ลูกหลับไม่สบายและเกิดอาการงอแงได้ค่ะ รวมถึงผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีการซึมซับดี ก็จะให้ความแห้งสบายของผิวหน้าผ้าอ้อมแม้ใส่นานๆค่ะ สำหรับแบบกลางวัน อาจไม่จำเป็นต้องหนาเหมือนแบบกลางคืนก็ได้ค่ะ แต่ขอให้เลือกแบบที่ระบายอากาศได้ดีค่ะ หากอยากประหยัด ในช่วงกลางวันอาจเลือกใช้ผ้าอ้อมจากผ้าสาลูที่ซักและใช้ซ้ำได้ค่ะ

สรุปการเลือกในแบบ เด็กทารก Everything Channel ให้คุณแม่เลือกจากวัยของทารกค่ะ จากนั้นดูน้ำหนักของลูก เพศอะไร ใช้ช่วงเวลาไหน ผิวสัมผัสเป็นอย่างไร โดยมีทริคเล็กๆค่ะ หากคุณแม่เริ่มใส่ผ้าอ้อมให้ลูกได้ลำบาก ติดเข็มขัดยาก ก็แสดงว่าแพมเพิสมีขนาดเล็กเกินไปแล้วค่ะ และหากหลวมเกินไป ก็จะไม่กระชับ อาจรั่วซึมและระคายเคืองได้เช่นกัน คุณแม่ควรปรับผ้าอ้อมให้กระชับพอดีกับตัวลูกค่ะ โดยการจัดยางยืดบริเวณรอบขอบขา ไม่ให้พับเข้าด้านใน  และติดเทปให้กระชับกับรอบเอวลูกค่ะ ซึ่งจะต้องสามารถสอดนิ้วมือ 2 นิ้วได้ที่บริเวณขอบเอวโดยรอบ เพื่อมั่นใจได้ว่าจะไม่รัดแน่นเกินไปจนลูกอึดอัดนะคะ

              คุณแม่มือใหม่ค่อยๆเลือกว่าแบบไหนมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร หัวใจสำคัญคือความเหมาะสมของลูกน้อยค่ะ และคุณแม่ต้องคอยสังเกตอาการของลูกน้อยอยู่เสมอนะคะ เพราะทารกไม่สามารถบอกเราได้ และแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ หากลูกน้อยสบายตัว ก็จะอารมณ์ดี พัฒนาการทารกก็จะดี รวดเร็วแข็งแรงค่ะ

ลูกสบายตัว อารมณ์ดี มีความสุข แม่ยิ่งสุข เมื่อลูกอารมณ์ดี สบายตัว