10 อันดับโรคที่ทารกป่วยมากที่สุด

10 อันดับโรคที่ทารกป่วยมากที่สุด

**ความจริงที่น่ากลัวเกี่ยวกับชีวิตทารกหลังคลอด! ทารกย่อมมีโอกาสเจ็บป่วยได้ วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ 10 อันดับโรคที่ทารกป่วยมากที่สุด หากเจ้าตัวเล็กมีอาการผิดปกติ จะได้ดูแลรักษาอย่างทันท่วงที ลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้นะคะ ก่อนจะไปดูกัน อย่าลืมกดไลค์ตรงนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานด้วยนะคะ ท่านไหนที่กดไลค์ ขอให้เจ้าตัวเล็กสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนเลยนะคะ**

ในช่วงเเรกเกิดนั้น อาการต่างๆของลูกก็จะบอกได้ยาก ดูแลยากกว่าเด็กโต เพราะลูกยังพูดไม่ได้  ร่างกายและจิตใจยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ทำให้พบโรคได้บ่อย เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าผู้ใหญ่ จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องใส่ใจและสังเกตอาการความผิดปกติของลูกอย่างสม่ำเสมอนะคะ 

10.ภาวะลำไส้ขาดเลือดจากการบิดขั้ว

เกิดจากการเรียงตัวผิดปกติของลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ทำให้เส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงผนังลำไส้เกิดการบิดขั้ว ทำให้ลำไส้อยู่ในภาวะขาดเลือด โดยเด็กทารกจะเริ่มมีอาการท้องอืด อาเจียน และถ่ายเป็นเลือด อาการซึม ตัวซีด มีภาวะช็อก และเสียชีวิตในที่สุด จึงควรรีบพาไปพบคุณหมอโดยด่วน

9.โรคทางเดินหายใจ

เด็กทารกแรกเกิดที่ออกมาจากครรภ์คุณแม่ การทำงานของปอด หรือระบบหายใจอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ จึงควรใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหากลูกน้อยคลอดก่อนกำหนดค่ะ

8.พัฒนาการบกพร่อง

โรคเกี่ยวกับพัฒนาการบกพร่อง ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เช่น เด็กสมาธิสั้น หรือไฮเปอร์ หรือเอดีเอชดี และโรคออทิสติกค่ะ

7.โรคเกี่ยวกับระบบต่างๆ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่

เช่น โรคไขมันในเลือดสูง โรคไตเรื้อรัง โรคเบาหวาน รวมถึงโรคมะเร็ง ได้แก่ มะเร็งตา มะเร็งไต มะเร็งสมอง มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น

6.ภาวะติดเชื้อในเด็กทารกแรกเกิด

เนื่องจากเด็กแรกเกิดยังมีภูมิคุ้มกันไม่มากพอ จึงทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากคุณแม่ที่มีภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนคลอดนานๆ เพราะเชื้อทางช่องคล่องจะเข้าไปในถุงน้ำคร่ำ ทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาแล้ว จะแสดงอาการติดเชื้อ เช่น กินนมน้อย ซึม หายใจผิดปกติ ตัวซีด หรืออาจมีอาการชัก เกร็ง ควรรีบพาลูกน้อยไปพบคุณหมอโดยด่วนนะคะ

5.โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กทารกแรกเกิด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โรคหัวใจพิการชนิดมีภาวะตัวเขียว และชนิดไม่มีภาวะตัวเขียว มีอาการที่สังเกตได้คือ ริมฝีปากมีสีเขียวคล้ำ จมูกบาน หายใจแรงและเร็ว หน้าอกบุ๋ม ซี่โครงบาน ตัวเย็น ดูดนมได้ไม่นานแล้วหยุดเป็นพักๆ ในบางรายคุณหมออาจพบว่ามีเสียงหัวใจเต้นผิดปกติตั้งแต่ก่อนออกจากโรงพยาบาลค่ะ

4.น้ำตาลในเลือดผิดปกติ

ส่วนใหญ่เกิดจาก 2 สาเหตุ ได้แก่ ตัวคุณแม่ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และตัวลูกน้อยที่คลอดออกมาน้ำหนักต่ำหรือสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด หากลูกน้อยมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ คุณหมอจะพิจารณาให้น้ำเกลือควบคู่ไปกับการกินนมแม่ค่ะ

3.ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์แต่กำเนิด

เป็นโรคที่พบบ่อย ภาวะนี้มีผลต่อพัฒนาการ การเจริญเติบโต และระบบการทำงานของสมอง คุณแม่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ โดยการรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุไอโอดีนค่ะ

2.โรคทางพันธุกรรม

โรคทางพันธุกรรม พบได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยมักเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โรคธาลัสซีเมีย หรือการติดเชื้อโรค หรือจากสุขภาพของคุณแม่ในขณะตั้งครรภ์ เช่น โรคหัดเยอรมัน โรคเบาหวานในเด็ก โรคตาขี้เกียจ หรือโรคตามัว หรือกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม

1.ภาวะตัวเหลือง

เกิดจากสารเคมีที่เรียกว่า บิลิรูบิน เป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการแตกของเม็ดเลือดแดงซึ่งมีอยู่ในเลือดสูง ตับของทารกยังทำงานไม่สมบูรณ์จึงไม่สามารถกำจัดได้หมด โดยทั่วไปจะตัวเหลืองไม่เกิน 10 วัน แต่หากตัวเหลืองมากๆ ควรไปพบคุณหมอค่ะ

**เพราะฉะนั้นเมื่อเด็กแรกเกิดคลอดออกมาแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรต้องหมั่นสังเกตลักษณะและอาการของลูกอยู่เสมอ รีบพาไปพบคุณหมอทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ พร้อมกับเอาใจใส่และเลี้ยงดูอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้เค้าเติบโตมีชีวิตที่ดีและสุขภาพแข็งแรงค่ะ**

“ เพราะลูกคือดวงใจ พ่อแม่จึงห่วงใยทุกวินาที ”