เลี้ยงทารกหน้าฝนต้องระวังอะไรบ้าง

เลี้ยงทารกหน้าฝนต้องระวังอะไรบ้าง?

ฝนตกทั้งวี่ทั้งวันเลย หน้าฝนแบบนี้ ต้องดูแลลูกน้อยเป็นพิเศษนะคะ แล้วเลี้ยงลูกหน้าฝนต้องระวังอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

หน้าฝนแบบนี้ ทั้งความชื้น แมลง โรคต่างๆที่มากับฝน ทำให้คนเป็นพ่อแม่ ต้องเตรียมพร้อมรับมือและระมัดระวังในการดูแลเจ้าตัวเล็กให้มากขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรที่ต้องระวังบ้างค่ะ

1. โรคที่มากับฝน 

1.1 โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ และปอดบวม 

โรคพวกนี้ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจค่ะ หน้าฝนที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลให้เชื้อไวรัสและแบคทีเรียแพร่กระจายในอากาศได้อย่างรวดเร็ว และเด็กก็จะรับเชื้อได้ง่ายค่ะ คุณแม่สามารถนำลูกไปฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป และสามารถรับวัคซีนได้ในทุก ๆ ปีค่ะ

1.2 โรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง

อาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา จากการสัมผัสโดยตรงจนกคนที่เป็นตาแดง หรือการขยี้ตา ที่จะทำให้มีอาการตาแดงเฉียบพลัน เคืองตา เจ็บตา น้ำตาไหล ต้องหมั่นล้างมือลูกแลตัวคุณพ่อคุณแม่เองให้สะอาดอยู่เสมอ และไม่ใช้มือขยี้ตาหรือจับหน้าลูกค่ะ

2. มดและแมลง

ดูแลลูกน้อยอย่าให้มีแมลงต่างๆ มากัด หรือสัมผัส โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่มีแมลง เช่น ยุง แมลงก้นกระดก ที่มีอยู่ชุกชุม หากสัมผัสควรรีบล้างด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันที ระวังอย่าให้ลูกน้อยเกา เพราะอาจติดเชื้อโรคได้ และในหน้าฝนจะทำให้มด หนีฝนเข้ามาในบ้านมากขึ้นและอาจจะกัดเจ้าตัวเล็กได้ แนะนำให้ใช้แป้งเด็กโรยไว้ตามทางเดินมด เพราะแป้งฝุ่นนอกจากจะไปกลบกลิ่นที่มดใช้สื่อสารกันแล้ว ยังจะไปอุดรูหายใจของมด และยังไม่เป็นอันตรายกับลูกเหมือนสารเคมีอื่นๆอีกด้วยค่ะ 

3. ความอับชื้น

3.1 การเลือกเสื้อผ้า

ก่อนช่วงฝนตก ที่ความชื้นในอากาศจะสูง อากาศร้อนอบอ้าว อาจทำให้ลูกน้อยรู้สึก ไม่สบายตัว คุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายหรือผ้าcotton100% ซึ่งมีความโปร่ง นุ่มสบายและระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยลดการเกิดผดผื่นในที่อับชื้น เพราะในเด็กเล็กๆหรือทารกต่อมเหงื่อและต่อมไขมันยังทำงานไม่เต็มที่เหมือนผู้ใหญ่ เมื่อมีเหงื่อออกในปริมาณมากๆ ต่อมเหงื่อระบายเหงื่อไม่ทันทำให้เกิดการอุดตัน และเกิดผื่นและตุ่มแดงตามมาได้ค่ะ 

3.2 ไม่ให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่อับชื้น

ถ้าเสื้อผ้าเปียกน้ำหรือชื้น ควรรีบซักและผึ่งแดดให้แห้งสนิท เพราะอาจจะทำให้เกิดเชื้อรา และกลิ่นอับชื้นได้ ในเด็กเล็กๆ ควรดูแลบริเวณจุดอับ เช่น คอ รักแร้ ขาหนีบ ให้แห้งอยู่เสมอ และควรดูแลพิเศษ โดยเฉพาะบริเวณจุดอับ เช่น คอ รักแร้ และขาหนีบ หลังทานนมควรใช้ผ้าซับบริเวณคอ และรักแร้ให้แห้ง เปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยๆ นะคะ

3.3 ให้ลูกอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเท

ให้ลูกน้อยอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ร้อนอบอ้าว เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศได้ แต่ไม่ควรจ่อพัดลม หรือในห้องแอร์เป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ลูกน้อยเป็นหวัด และปอดบวมได้ง่ายค่ะ

ที่สำคัญเลย คืออย่าให้ลูกโดนละอองฝน หรืออยู่ในที่ลมแรง และทานอาหารที่ทำสดใหม่อยู่เสมอนะคะ

“เพราะอากาศที่เปลี่ยนไป ต้องใส่ใจทุกเวลา”

ติดต่อโฆษณา Tel.098-8274400

Email : Childingeverything@gmail.com

LINE @Childingeverything