5 ความเชื่อผิดที่ทำให้ทารกขี้หงุดหงิด
**ไม่อยากให้ลูกร้องกรี๊ด หงุดหงิด เอาแต่ใจ ห้ามพลาดคลิปนี้นะคะ มาดู 5 ความเชื่อผิดที่ทำให้ทารกขี้หงุดหงิดกันค่ะ **
บางครั้งการที่เราเชื่อว่าเลี้ยงลูกแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วนั้น ก็อาจส่งผลให้ทารกมีนิสัยขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้อนโดยไม่รู้ตัวได้นะคะ มาดูกันว่าความเชื่อแบบไหนที่ทำให้ทารกขี้หงุดหงิด จะได้หลีกเลี่ยงกัน
เชื่อว่าการรักลูกคือการเลี้ยงดูลูกให้สบายทุกอย่าง
คุณพ่อคุณแม่บางคนเลี้ยงลูกแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะคะ แต่สิ่งเหล่านี้หากมากเกินไป จะทำให้ลูกเป็นคนขาดความอดทน เสี่ยงต่อการเติบโตเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ ขาดการควบคุมอารมณ์ ที่อาจส่งผลให้ก้าวร้าวใส่ผู้อื่น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนเรื่องการมีน้ำใจ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ควบคู่ไปด้วยค่ะ
เชื่อว่าการรักลูกคือการทำทุกอย่างให้ลูกหรือทำแทนลูก
เช่น ป้อนข้าวให้ลูกตลอด ไม่ปล่อยให้ลูกได้ลองตัก หรือหยิบกินเอง ไม่ว่าจะด้วยความกังวลว่าลูกยังกินเองไม่ได้ หรือกลัวลูกจะทำเลอะเทอะ การใส่เสื้อผ้าให้ลูกตลอด ไม่ให้ลูกฝึกใส่เอง การกระทำแบบนี้จะขัดขวางพัฒนาการ ทำให้ลูกเรียนรู้ด้วยตนเองช้าค่ะ และยังทำให้ลูกปรับตัวได้ยาก ขี้กลัว ไม่กล้าคิดกล้าทำ เวลาไม่มีคนทำอะไรให้จะรู้สึกขัดใจ งอแง อารมณ์เสีย และจะไม่ยอมทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง ดังนั้นควรให้ลูกค่อยๆฝึกทำอะไรด้วยตนเองทีละนิดๆค่ะ
เชื่อว่าการรักลูกคือการให้สิ่งของทุกอย่างที่ลูกต้องการ
หลายครั้งที่พ่อแม่ยอมตามใจลูก เพราะเห็นว่าลูกยังเล็ก อยากให้ลูกได้รับสิ่งดีๆ บ้าง ลูกจึงจำว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากได้อะไรพ่อแม่ก็หาให้ พอขัดใจก็งอแงร้องไห้จนหน้าเขียว ยิ่งตามใจ ยิ่งทำให้ลูกน้อยยิ่งอาละวาดเอาแต่ใจมากขึ้น เพราะรู้แล้วว่าทำอย่างไรถึงจะได้สิ่งที่ตนเองต้องการนั่นเองค่ะ
เชื่อว่าเด็กยังเล็ก ไม่ต้องสอนอะไรมาก
ถึงลูกจะดูเหมือนไม่รู้เรื่อง แต่ลูกกำลังเรียนรู้และจดจำนะคะ ไม่ควรปล่อยเวลานี้ให้เสียเปล่าค่ะ โดยเฉพาะช่วงแรกเกิด-1ปี เพราะเป็นเวลาทองของการเสริมพัฒนาการเลยล่ะค่ะ คุณพ่อคุณแม่ควรเสริมพัฒนาการตามวัยลูกทีละน้อย ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการกล้ามเนื้อ พัฒนาการสมอง พัฒนาการทางอารมณ์ที่หากไม่ได้รับการชี้นำ ก็อาจส่งผลให้ลูกเป็นเด็กอารมณ์ไม่ดีได้ค่ะ
เชื่อว่าทีวี อินเตอร์เน็ตจะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้
จริงๆแล้วข้อนี้ ไม่ใช่ว่าผิดไปซะทีเดียวนะคะ จริงอยู่ที่ทีวีและอินเตอร์เน็ตให้ความรู้ได้มาก แต่ลูกควรได้รับการเรียนรู้จากประสบการณ์และการทดลองด้วยตนเอง ไม่ใช่เพียงจากในจอค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่ให้ลูกดูแต่ทีวี ไม่ได้ออกไปดูโลกภายนอก หรือเล่นกับลูกด้วยตนเอง ลูกก็จะไม่มีโอกาสได้รู้ว่าการเล่นในสนามหญ้าแท้จริงเป็นอย่างไร ผิวสัมผัสของดิน หิน หญ้า รวมถึงกลิ่น แสง ที่จะช่วยพัฒนาและกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูก นอกจากนี้ จอโทรทัศน์ โทรศัพท์ ยังทำให้ลูกสมาธิสั้น จดจ่ออะไรไม่ได้นาน ทำให้ขี้หงุดหงิด รอไม่เป็นค่ะ
**ปิด**
หากลูกมีนิสัยใจร้อน ขี้หงุดหงิด คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็นกับลูกนะคะ สอนลูกด้วยการกระทำ เพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกจำและทำตามค่ะ รีบสอนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้ลูกติดนิสัยไปจนโตนะคะ
“เลี้ยงลูกต้องใส่ใจ ไม่ให้ลูกเสียนิสัยไปจนโต”
หน้าที่เข้าชม | 2,838,320 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,497,358 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ส.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |