สัญญาณที่บอกว่าทารกติดหวาน

สัญญาณที่บอกว่าทารกติดหวาน

**รู้หรือไม่ จากสถิติเด็กไทยเป็นโรคอ้วนในสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 5!!

ถ้าไม่อยากให้ลูกติดหวาน เช็คสัญญาณตามนี้เลยค่ะ แต่ก่อนจะไปดู อย่าลืมแวะกดไลค์ตรงนี้นะคะ ท่านที่กดไลค์ขอให้ร่ำรวยๆทุกท่านเลยค่ะ**

พอลูกทานยาก คุณพ่อคุณแม่บางคนจึงตามใจลูก คิดว่าให้ลูกกินขนมยังดีกว่าลูกไม่กินอะไรเลย จึงนำมาสู่การที่ทารกติดหวาน ถ้าอยากรู้ว่าเจ้าตัวเล็กติดหวานหรือไม่ มาเช็คกันค่ะ

1.เลือกทาน

    สังเกตดูนะคะคุณแม่ ว่าเจ้าตัวเล็กมีอาการทานยาก เบือนหน้าหนีอาหารบ่อย โดยเฉพาะอาหารที่รสชาติจืดๆ ป้อนแล้วคายทิ้ง แต่ตาวาวเวลาได้เห็นขนม เห็นผลไม้หวานๆ บางคนไม่ยอมทานน้ำเปล่า จะทานแต่น้ำหวาน น้ำผลไม้ นมหวาน นมช็อคโกแล็ตเท่านั้น แบบนี้ไม่ดีนะคะ การเลือกทานจะทำให้ลูกขาดสารอาหารที่จำเป็น โดยเฉพาะเลือกทานแต่น้ำตาล ไม่ดีแน่ๆค่ะ 

2.ไม่ชอบทานผัก

    เจ้าตัวเล็กบ้านไหน เห็นผักแล้วปากเบะบ้างคะ ถ้าลูกไม่ชอบทานผัก อาจเกิดจากการที่ลูกติดหวานได้ค่ะ แต่การไม่ชอบทานผัก เป็นเรื่องปกติของเด็กหลายๆคน เพราะผักมักจะมีรสขม ทานยาก มีกลิ่นเหม็นเขียว เด็กส่วนใหญ่จึงไม่ชอบ ดังนั้นต้องดูสัญญาณอื่นประกอบด้วยค่ะคุณแม่

3.น้ำหนักเกินเกณฑ์

    คุณแม่อาจคิดว่า ลูกทานอาหารได้เยอะ ได้รับสารอาหารเยอะจึงมีน้ำหนักมาก แต่จริงๆแล้วอาจเกิดจากการที่ลูกได้รับน้ำตาลมากเกินไป และได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกายน้อย เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง น้ำตาลจะมีการเปลี่ยนรูปไปเป็นไขมันค่ะ

4.ฟันผุ

น้ำตาลที่ลูกได้รับเข้าไปในร่างกายนั้น ทำให้เกิดแบคทีเรียและคราบน้ำตาลหลงเหลืออยู่ในช่องปาก หลังรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นต้นตอการเกิดปัญหา “ฟันผุ” นั่นเองค่ะ ยิ่งลูกทานอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลบ่อยๆ ก็ยิ่งมีโอกาสฟันผุได้มากขึ้น

5.ถ้าไม่ได้กินขนมจะหงุดหงิด

หากลูกไม่ได้ทานขนมหวาน หรือน้ำหวาน จะมีอาการเพลีย หงุดหงิด หรืออารมณ์ไม่ดี เมื่อขาดอาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของแป้งหรือน้ำตาล แบบนี้ยิ่งต้องรีบปรับเปลี่ยนการทานอาหารของลูกโดยด่วนเลยค่ะคุณแม่

   **ต้องเตือนไว้เลยนะคะว่าอย่าให้ลูกทานแต่ขนม น้ำหวาน หรืออาหารที่มีรสหวาน เพราะอาจทำให้เป็นโรคต่างๆได้ เช่น คอเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดสูง น้ำตาลสูงจนเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมถึงได้รับสารอาหารไม่เพียงพอด้วยนะคะ**

“ไม่ปล่อยให้ลูกติดหวาน ให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์”