หมอห้าม! กอดจูบทารกเพราะอะไร?

หมอห้าม! กอดจูบทารกเพราะอะไร?

วิจัยชี้เด็กทารกติดเชื้อจากที่ถูกกอดหอมมากที่สุด แต่จะมีโอกาสติดโรคอะไรบ้างนั้น?? 

          ***การเกรงใจคนอื่นจะห้ามไม่ให้มากอดหอมลูกเราจะพูดทีก็เกรงใจคนอื่นใช่มั้ยคะ แต่นี้เป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อแม่ระวังภัยร้ายจากการสัมผัสมากขึ้น เพราะใบหน้ามือและปากของเรามีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่ติดมาหลายชนิด ****

1.โรค RSV หรือ การติดเชื้อในระบบหายใจ

            อย่าเพิ่งชะล่าใจกับอาการเย็นสบายช่วงฝนตกนะคะ โรคนี้พบในสภาพอากาศอับชื้นค่ะ เช่น ช่วงหน้าฝน และเป็นโรคที่ติดต่อใด้ง่ายจากการสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกันค่ะ สามารถติดต่อผ่านทางสารหลั่งดวงตา จมูกหรือลมหายใจ โรคนี้เป็นไวรัสที่ทำให้ปอดมีอาการอักเสบและบวม รวมไปถึงหลอดลมบวม ทำให้เด็กมีอาการหายใจลำบากค่ะ

            หากเด็กมีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ โรคหอบหืด โรคปอด อาจส่งผลให้อาการอยู่ในขั้นรุนแรงโดยเด็กอาจหยุดหายใจเป็นช่วงๆ หรือเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ค่ะ

2.โรคโควิด 19

            เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักเชื้อไวรัสโควิด 19 แน่นอนค่ะในตอนนี้ เพราะเป็นเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายไปทั่วโลกและส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและทำลายอวัยวะปอดค่ะ ไวรัสโควิด 19  แพร่กระจายผ่านการจามหรือไอ โดยละอองฝอยสามารถเดินทางในอากาศได้ถึง 1-2 เมตร อีกทั้งไวรัสแพร่ผ่านกระจายจากการสัมผัสสารหลั่งจากผู้ป่วยทางตรง เช่น น้ำมูก น้ำลาย หรือทางอ้อม เช่น ไปสัมผัสพื้นผิวที่มีสารปนเปื้อนแล้วนำมาสัมผัสกับทารกโดยไม่ได้ล้างมือล้างหน้าก่อน ทารกก็จะสามารถติดไวรัสได้ค่ะ

            อาการจะแสดงหลังจากสัมผัสเชื้อใน 4-5 วันค่ะ โดยจะมีอาการไข้ ไอแห้งๆ อาจพบอาการปวดเมื่อย คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ปวดศีรษะหรือผื่นตามผิวหนัง หากพบอาการดังกล่าวให้นำลูกพบแพทย์ทันทีเลยนะคะ 

3.โรค 4S

          เป็นโรคที่เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังโดยตัวเชื้อจะปล่อยสารเข้ากระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบและแยกชั้นผิวหนังกำพร้า โดยเด็กทารกจะมีอาการร้องไห้มากกว่าปกติ มีไข้ ผิวหนังแดงไปทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณตา เยื่อบุจมูก รอบปากและรอบคอค่ะ หากผ่าน 24-48 ชั่วโมง ผิวที่แดงเริ่มบวมพองเป็นตุ่มน้ำ  

            ช่วงที่เป็นโรคนี้เด็กจะมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ผ่านทางบาดแผลที่เกิดขึ้นค่ะ เชื้อจะเข้าไปทำลายระบบการทำงานอวัยวะภายในต่างๆ เช่น กระดูก ข้อต่อ ไต ในระยะนี้จึงควรในรับการดูแลจากแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิดนะคะ

4.โรคหวัด

            คุณพ่อคุณแม่ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเป็นหวัดไม่ว่าจะเป็นหวัดธรรมดาหรือหวัดใหญ่ ห้ามจูบหอมทารกเด็ดขาดนะคะ เพราะทารกเป็นช่วงวัยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำร่างกายยังไม่แข็งแรงค่ะ หากได้รับไวรัสไข้หวัดจากผู้ใหญ่จะใช้เวลาในการฟื้นตัวนานถึง 7-10 วันเลยทีเดียวค่ะ

โดยทารกจะมีอาการซึม ไข้ขึ้นสูงเกิน 38 องศา หายใจหอบหื่น มีน้ำมูกข้นเขียว ตาแดง ไม่ยอมกินน้ำและอาเจียนบ่อยครั้ง มีอาการไอไม่หยุด หากมีอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ทันทีเลยนะคะ

5.โรคหัด

            เป็นโรคที่ติดต่อผ่านทางลมหายใจค่ะ หากพ่อแม่สัมผัสทารกผ่านการหอมโอกาสที่ทารกจะติดโรคนี้ก็เป็นไปได้สูงเลยทีเดียวค่ะ  โดยทารกเมื่อรับเชื้อแล้วจะมีไข้ขึ้นสูงรวมถึงการติดเชื้อในทางเดินหายใจ เช่น มีน้ำมูกไหล ไอ ตาแดง ปากแดง จะเริ่มมีอาการอื่นแทรกซ้อนมากขึ้นพร้อมกับไข้ที่สูงขึ้น

เริ่มมีผื่นที่ผิวหนัง ระยะแยกผื่นเป็นสีแดง ขึ้นบริเวณใบหน้า ลำตัวและแขนขา เมื่อใกล้หาย ผื่นทีแพร่กระจายไปทั่วตัว ในเวลา 2-3 วัน จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นสีแดงคล้ำ และไข้ก็จะเริ่มลดลงตามค่ะ

           *** คุณพ่อคุณแม่คงเห็นอันตรายที่เกิดขึ้นจากเรื่องเล็กๆที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนแล้วใช่มั้ยคะ เพราะทารกยังมีร่ายกายที่ไม่แข็งแรงพอจะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ดังนั้นหากเราจำเป็นต้องจับหรืออุ้มทารกก็ต้องล้างมือและหน้าให้สะอาดเสียก่อนค่ะ โดยเฉพาะบ้านใหนคุณพ่อคุณแม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า อาจจะต้องทำความสะอาดอย่างจริงจังนะคะ รวมถึงเสื้อผ้าที่ใช้ก็ต้องเป็นผ้าที่ซักสะอาดแล้วเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคมาสู่ทารกค่ะ***

“สร้างเกราะภูมิคุ้มให้ลูกตอนนี้ เพื่อสุขภาพดีในอนาคตของลูก”